8 ข้อคิดสร้างภาวะผู้นำมืออาชีพ
โดย:
winai.d
[IP: 61.91.85.xxx]
เมื่อ: 2016-10-10 08:50:35
ผู้นำ คือ คนที่ถูกแต่งตั้งขึ้นมาเพื่อช่วย ปกครอง ดูแล สร้างทีม เพื่อให้งานบรรลุเป้าหมายตามที่องค์กรต้องการ
แต่ผู้นำบางคนก็ใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกไม่ควร จนทำให้ลูกน้องพากันหนีหายจากไป
การเป็นผู้นำที่ดีได้นั้น แท้จริงแล้ว ต้องมีทักษะหลาย ๆ ตัว เช่น
ทักษะภาวะผู้นำ
ทักษะการแก้ไขปัญหาและตัดสินใจ
ทักษะการบริหารงาน
ทักษะการมอบหมายงาน
ทักษะการติดตามงาน
ทักษะการสอนงาน
ทักษะการสร้างขวัญและกำลังใจ
ทักษะการสร้างทีม
ทักษะการโค้ชและให้คำปรึกษา
ซึ่งทักษะต่าง ๆ จะเกิดขึ้นได้ ผู้นำต้องเข้าใจในบทบาทของตนเอง
และพัฒนาตนเองให้ เก่งทั้งความคิด เก่งทั้งการบริหารงาน และเก่งในด้านการบริหารคน
ซึ่งในบทความนี้ ผมขอแชร์ในส่วนของทักษะภาวะผู้นำที่หัวหน้างานควรมี
ซึ่งหากเรามีภาวะผู้นำ เราย่อมสามารถเพิ่มเติมทักษะตัวอื่น ๆ ไม่ยาก
แต่หากเรามีแต่คำว่า ผู้นำ และใช้อำนาจในทางที่ผิด ผลลัพธ์ย่อมไม่เป็นไปตามเป้าหมายได้เช่นกัน
มาดูกันครับว่า ภาวะผู้นำที่ หัวหน้างานต้องมี มีอะไรบ้าง
1.มีทัศนคติที่ดี
ต้องมีความคิดในเชิงบวก มองปัญหาเป็นเรื่องท้าทายและโอกาสในการพัฒนาตนเองร่วมกับทีมงาน
มีการคิดในเชิงเป้าหมาย และรู้จักวางแผนการทำงานเพื่อให้งานเดินหน้าไปสู่เป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรม
2.ใบหน้าสดใส
สีหน้าต้องดูเป็นมิตร ยิ้มแย้มแจ่มใส โดยเฉพาะเวลามอบหมายงาน สอนงานลูกน้อง
หรือแม้กระทั่งประชุมทีมงานต้องมีสีหน้าที่เปิดรับ ไม่ใช้อารมณ์ในการแสดงออก
เพราะใบหน้า ถือเป็นภาษากาย ที่คนทั่วไปสามารถรับรู้ได้ ต้องระวังอย่าชักสีหน้าใส่ลูกน้อง
3.สายตามองการณ์ไกล
ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ต้องรู้จักใช้สายตาในการมองระยะยาว มักกว่ามองระยะสั้นในการทำงาน
และใช้สายตาหมั่นสังเกตพฤติกรรมของลูกน้อง เพื่อรู้เขารู้เราในการปรับตัว และใช้คนให้ถูกกับงานที่ทำ
4.พร้อมรับฟัง
คนเรามี หูสองข้าง ต้องกล้าเปิดใจรับฟังลูกน้องเยอะ ๆ แต่ใช่ว่าฟังแล้วเชื่อในทันที
ต้องรู้จัก คิด วิเคราะห์ แยะแยะ สารที่ลูกน้องส่งมาหาเรา เพื่อใช้ประกอบในการตัดสินใจ
ในการลงมือทำ โดยเฉพาะหากเจอปัญหา ต้องพร้อมเปิดใจฟังให้มากกว่าพูดครับ
5.ใช้ปากในทางสร้างสรรค์
ก่อนพูดเราเป็นนายคำพูด เมื่อพูดไปแล้วคำพูดเป็นนายเรา เอากลับคืนมาได้ยากครับ
ดังนั้นก่อนพูด คิดสักนิดว่า คำพูดของเราทำให้คนอื่น เสียหาย เสียหน้า เสียใจ และเสียความรู้สึกไหม
โดยเฉพาะเวลาที่ลูกน้องทำงานผิดพลาด อย่าพึ่งด่า หรือตำหนิ ลองเปิดใจฟังลูกน้องก่อน
และค่อย ๆ ใช้คำพูดในเชิงสร้างสรรค์ อีกทั้งต้องรู้จักใช้ ปาก ในการสื่อสารสร้างความสัมพันธ์
โดยเฉพาะ ยิ้มให้เป็น
6.รู้จักให้โอกาสและให้อภัย
หัวหน้างานเป็นผู้ให้คุณให้โทษกับลูกน้อง ดังนั้นทุกครั้งที่ลูกน้องทำผิด ต้องรู้จักพูดคุย
และให้โอกาสในการแก้ตัว (ยกเว้นเป็นความผิดร้ายแรงตามกฎข้อบังคับของบริษัท ฯ)
แต่ถ้าเป็นการกระทำความผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ควรเรียกมาตักเตือน ให้โอกาสแก้ตัวกับลูกน้องคนนั้น
เวลาเรียกมาตักเตือนต้องไม่ให้คนอื่นเห็นเพื่อให้ลูกน้องไม่เสียหน้า
แต่หากต้องการชื่นชมผลงานลูกน้อง ต้องชมต่อหน้าคนอื่นให้เป็นแบบอย่าง
หัวหน้างานที่ดี ต้องใจกว้างครับ พร้อมเปิดโอกาสให้คนอื่น และควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้
ยิ่งเราควบคุมอารมณ์เราได้ดี ความคิดเราจะสดชื่นและพร้อมในการสร้างสรรค์ผลงานให้ดีขึ้นในทุก ๆ วัน
7.หัวหน้าต้องรู้จักเป็นแบบอย่างต่อหน้าและลับหลัง
การเป็นหัวหน้างานที่ดี ต้องรู้จักสร้างให้ลูกน้อง เชื่อ และ ชอบ
ดังนั้นทุกครั้งที่เราจะพูด หรือ สอนงานลูกน้อง เราต้องทำให้ได้ก่อน
ไม่ใช่เราทำไม่ได้ แต่ให้ลูกน้องไปทำ พอลูกน้องสอบถามข้อมูล ก็ใบ้รับประทาน
แบบนั้นใช้ไม่ได้ครับ ทุกครั้งไม่ว่าเราจะทำสิ่งใด เราต้องทำให้ลูกน้องเชื่อเรา
การที่ลูกน้องจะเชื่อเรานั้น เราต้องเป็นแบบอย่างที่ดีทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว
และรู้จักชื่นชมลูกน้องหากลูกน้องทำผลงานได้ดี เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจกับลูกน้อง
โดยใช้หลักการสื่อสารทั้ง ภาษาพูด ภาษากาย และน้ำเสียงที่สุภาพ ไปพร้อม ๆ กัน
8.รู้จักก้าวไปข้างหน้ามากกว่าย่ำอยู่กับที่
หัวหน้างานที่ดี ต้องรู้จักใช้สองขา ก้าวไปหาลูกน้องในการทำงานเพื่อติดตาม สอนงาน
รับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นจากการทำงาน เพื่อหาหนทางในการแก้ไขปัญหา
มากกว่านอนจมกับปัญหาโดยที่ไม่ยอมแก้ไขปล่อยให้ปัญหานั้นยากเกินเยียวยา
อีกทั้งหัวหน้างานที่ดีต้องก้าวเท้าออกไปรับปัญหาเป็นคนแรกหากลูกน้องทำผิดพลาดต่อหน้าผู้อื่น
แต่หากผู้บริหารชื่นชมทีมงาน หัวหน้างานที่ดีต้องให้เครดิตกับลูกน้องมากกว่าเอาความดีเข้าตัว
และรู้จักยืดหยุ่น เดินหน้า และถอยหลัง
เดินหน้า เพื่อพาทีมไปสู่เป้าหมายร่วมกัน และถอยหลังหากสิ่งนั้นก้าวด้วยความผิดพลาด
การที่เราถูกแต่งตั้งขึ้นมาให้ดำรงตำแหน่ง หัวหน้างาน เพราะผู้บริหารเล็งเห็นแล้วว่า
เรามีประสบการณ์ และสามารถขับเคลื่อนทีมงานไปสู่เป้าหมายได้
ดังนั้น การที่เราเป็นผู้นำที่ใช้ ภาวะผู้นำ ขับเคลื่อนทั้ง 8 ข้อจะทำให้เรา
ทำงานได้ใจทั้งผู้บังคับบัญชาเรา และผู้ใต้บังคับบัญชาที่เราดูแล
เพื่อให้งานนั้น ราบรื่น และประสบผลสำเร็จ
ท่านหัวหน้าทั้งหลาย เราเลือกผู้นำไม่ได้ครับ แต่เราเลือกเป็นผู้นำที่ดีได้
ลองนำหลักคิดทั้ง 8 ข้อไปใช้ดูนะครับ ใช้แล้วได้ผลอย่างไร บอกต่อกันด้วยครับ
ขอบคุณครับ
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของ หลักสูตร 10 Tool For Supervisory Skill
ท่านสามารถติดตาม Dr.fish ได้ทาง Line แล้วตั้งแต่วันนี้ โดยทำตามขั้นตอน คือ
1.ค้นหา ID : Dr.fish กรุณากดลิงก์ด้านล่าง หรือค้นหา ID "@dr.fish" ที่ LINE หรือ LINE@
(กรุณาใส่ "@" ด้วย) แล้วเพิ่มเป็นเพื่อนของคุณ
2. คลิก Link http://line.me/ti/p/%40dr.fish
ประโยชน์ที่จะได้รับในการเป็นเพื่อนกับ dr.fish คือ
1.ได้รับข้อมูลการพัฒนาตนเองที่เป็นประโยชน์ วิธีคิดในเชิงบวก ทุกเช้า 7.30 น.ทุกวัน
2. สามารถปรึกษาการทำงาน วิธีคิดได้ตลอดเวลา ไม่ต้องเกรงใจครับ ยินดีมาก ๆ ครับ
คิดบวก คิดถึง Dr.fish
เขียนโดย อ.มงคล กรัตะนุตถะ
วิทยากร นักคิด นักเขียน
26/6/59
แต่ผู้นำบางคนก็ใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกไม่ควร จนทำให้ลูกน้องพากันหนีหายจากไป
การเป็นผู้นำที่ดีได้นั้น แท้จริงแล้ว ต้องมีทักษะหลาย ๆ ตัว เช่น
ทักษะภาวะผู้นำ
ทักษะการแก้ไขปัญหาและตัดสินใจ
ทักษะการบริหารงาน
ทักษะการมอบหมายงาน
ทักษะการติดตามงาน
ทักษะการสอนงาน
ทักษะการสร้างขวัญและกำลังใจ
ทักษะการสร้างทีม
ทักษะการโค้ชและให้คำปรึกษา
ซึ่งทักษะต่าง ๆ จะเกิดขึ้นได้ ผู้นำต้องเข้าใจในบทบาทของตนเอง
และพัฒนาตนเองให้ เก่งทั้งความคิด เก่งทั้งการบริหารงาน และเก่งในด้านการบริหารคน
ซึ่งในบทความนี้ ผมขอแชร์ในส่วนของทักษะภาวะผู้นำที่หัวหน้างานควรมี
ซึ่งหากเรามีภาวะผู้นำ เราย่อมสามารถเพิ่มเติมทักษะตัวอื่น ๆ ไม่ยาก
แต่หากเรามีแต่คำว่า ผู้นำ และใช้อำนาจในทางที่ผิด ผลลัพธ์ย่อมไม่เป็นไปตามเป้าหมายได้เช่นกัน
มาดูกันครับว่า ภาวะผู้นำที่ หัวหน้างานต้องมี มีอะไรบ้าง
1.มีทัศนคติที่ดี
ต้องมีความคิดในเชิงบวก มองปัญหาเป็นเรื่องท้าทายและโอกาสในการพัฒนาตนเองร่วมกับทีมงาน
มีการคิดในเชิงเป้าหมาย และรู้จักวางแผนการทำงานเพื่อให้งานเดินหน้าไปสู่เป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรม
2.ใบหน้าสดใส
สีหน้าต้องดูเป็นมิตร ยิ้มแย้มแจ่มใส โดยเฉพาะเวลามอบหมายงาน สอนงานลูกน้อง
หรือแม้กระทั่งประชุมทีมงานต้องมีสีหน้าที่เปิดรับ ไม่ใช้อารมณ์ในการแสดงออก
เพราะใบหน้า ถือเป็นภาษากาย ที่คนทั่วไปสามารถรับรู้ได้ ต้องระวังอย่าชักสีหน้าใส่ลูกน้อง
3.สายตามองการณ์ไกล
ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ต้องรู้จักใช้สายตาในการมองระยะยาว มักกว่ามองระยะสั้นในการทำงาน
และใช้สายตาหมั่นสังเกตพฤติกรรมของลูกน้อง เพื่อรู้เขารู้เราในการปรับตัว และใช้คนให้ถูกกับงานที่ทำ
4.พร้อมรับฟัง
คนเรามี หูสองข้าง ต้องกล้าเปิดใจรับฟังลูกน้องเยอะ ๆ แต่ใช่ว่าฟังแล้วเชื่อในทันที
ต้องรู้จัก คิด วิเคราะห์ แยะแยะ สารที่ลูกน้องส่งมาหาเรา เพื่อใช้ประกอบในการตัดสินใจ
ในการลงมือทำ โดยเฉพาะหากเจอปัญหา ต้องพร้อมเปิดใจฟังให้มากกว่าพูดครับ
5.ใช้ปากในทางสร้างสรรค์
ก่อนพูดเราเป็นนายคำพูด เมื่อพูดไปแล้วคำพูดเป็นนายเรา เอากลับคืนมาได้ยากครับ
ดังนั้นก่อนพูด คิดสักนิดว่า คำพูดของเราทำให้คนอื่น เสียหาย เสียหน้า เสียใจ และเสียความรู้สึกไหม
โดยเฉพาะเวลาที่ลูกน้องทำงานผิดพลาด อย่าพึ่งด่า หรือตำหนิ ลองเปิดใจฟังลูกน้องก่อน
และค่อย ๆ ใช้คำพูดในเชิงสร้างสรรค์ อีกทั้งต้องรู้จักใช้ ปาก ในการสื่อสารสร้างความสัมพันธ์
โดยเฉพาะ ยิ้มให้เป็น
6.รู้จักให้โอกาสและให้อภัย
หัวหน้างานเป็นผู้ให้คุณให้โทษกับลูกน้อง ดังนั้นทุกครั้งที่ลูกน้องทำผิด ต้องรู้จักพูดคุย
และให้โอกาสในการแก้ตัว (ยกเว้นเป็นความผิดร้ายแรงตามกฎข้อบังคับของบริษัท ฯ)
แต่ถ้าเป็นการกระทำความผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ควรเรียกมาตักเตือน ให้โอกาสแก้ตัวกับลูกน้องคนนั้น
เวลาเรียกมาตักเตือนต้องไม่ให้คนอื่นเห็นเพื่อให้ลูกน้องไม่เสียหน้า
แต่หากต้องการชื่นชมผลงานลูกน้อง ต้องชมต่อหน้าคนอื่นให้เป็นแบบอย่าง
หัวหน้างานที่ดี ต้องใจกว้างครับ พร้อมเปิดโอกาสให้คนอื่น และควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้
ยิ่งเราควบคุมอารมณ์เราได้ดี ความคิดเราจะสดชื่นและพร้อมในการสร้างสรรค์ผลงานให้ดีขึ้นในทุก ๆ วัน
7.หัวหน้าต้องรู้จักเป็นแบบอย่างต่อหน้าและลับหลัง
การเป็นหัวหน้างานที่ดี ต้องรู้จักสร้างให้ลูกน้อง เชื่อ และ ชอบ
ดังนั้นทุกครั้งที่เราจะพูด หรือ สอนงานลูกน้อง เราต้องทำให้ได้ก่อน
ไม่ใช่เราทำไม่ได้ แต่ให้ลูกน้องไปทำ พอลูกน้องสอบถามข้อมูล ก็ใบ้รับประทาน
แบบนั้นใช้ไม่ได้ครับ ทุกครั้งไม่ว่าเราจะทำสิ่งใด เราต้องทำให้ลูกน้องเชื่อเรา
การที่ลูกน้องจะเชื่อเรานั้น เราต้องเป็นแบบอย่างที่ดีทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว
และรู้จักชื่นชมลูกน้องหากลูกน้องทำผลงานได้ดี เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจกับลูกน้อง
โดยใช้หลักการสื่อสารทั้ง ภาษาพูด ภาษากาย และน้ำเสียงที่สุภาพ ไปพร้อม ๆ กัน
8.รู้จักก้าวไปข้างหน้ามากกว่าย่ำอยู่กับที่
หัวหน้างานที่ดี ต้องรู้จักใช้สองขา ก้าวไปหาลูกน้องในการทำงานเพื่อติดตาม สอนงาน
รับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นจากการทำงาน เพื่อหาหนทางในการแก้ไขปัญหา
มากกว่านอนจมกับปัญหาโดยที่ไม่ยอมแก้ไขปล่อยให้ปัญหานั้นยากเกินเยียวยา
อีกทั้งหัวหน้างานที่ดีต้องก้าวเท้าออกไปรับปัญหาเป็นคนแรกหากลูกน้องทำผิดพลาดต่อหน้าผู้อื่น
แต่หากผู้บริหารชื่นชมทีมงาน หัวหน้างานที่ดีต้องให้เครดิตกับลูกน้องมากกว่าเอาความดีเข้าตัว
และรู้จักยืดหยุ่น เดินหน้า และถอยหลัง
เดินหน้า เพื่อพาทีมไปสู่เป้าหมายร่วมกัน และถอยหลังหากสิ่งนั้นก้าวด้วยความผิดพลาด
การที่เราถูกแต่งตั้งขึ้นมาให้ดำรงตำแหน่ง หัวหน้างาน เพราะผู้บริหารเล็งเห็นแล้วว่า
เรามีประสบการณ์ และสามารถขับเคลื่อนทีมงานไปสู่เป้าหมายได้
ดังนั้น การที่เราเป็นผู้นำที่ใช้ ภาวะผู้นำ ขับเคลื่อนทั้ง 8 ข้อจะทำให้เรา
ทำงานได้ใจทั้งผู้บังคับบัญชาเรา และผู้ใต้บังคับบัญชาที่เราดูแล
เพื่อให้งานนั้น ราบรื่น และประสบผลสำเร็จ
ท่านหัวหน้าทั้งหลาย เราเลือกผู้นำไม่ได้ครับ แต่เราเลือกเป็นผู้นำที่ดีได้
ลองนำหลักคิดทั้ง 8 ข้อไปใช้ดูนะครับ ใช้แล้วได้ผลอย่างไร บอกต่อกันด้วยครับ
ขอบคุณครับ
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของ หลักสูตร 10 Tool For Supervisory Skill
ท่านสามารถติดตาม Dr.fish ได้ทาง Line แล้วตั้งแต่วันนี้ โดยทำตามขั้นตอน คือ
1.ค้นหา ID : Dr.fish กรุณากดลิงก์ด้านล่าง หรือค้นหา ID "@dr.fish" ที่ LINE หรือ LINE@
(กรุณาใส่ "@" ด้วย) แล้วเพิ่มเป็นเพื่อนของคุณ
2. คลิก Link http://line.me/ti/p/%40dr.fish
ประโยชน์ที่จะได้รับในการเป็นเพื่อนกับ dr.fish คือ
1.ได้รับข้อมูลการพัฒนาตนเองที่เป็นประโยชน์ วิธีคิดในเชิงบวก ทุกเช้า 7.30 น.ทุกวัน
2. สามารถปรึกษาการทำงาน วิธีคิดได้ตลอดเวลา ไม่ต้องเกรงใจครับ ยินดีมาก ๆ ครับ
คิดบวก คิดถึง Dr.fish
เขียนโดย อ.มงคล กรัตะนุตถะ
วิทยากร นักคิด นักเขียน
26/6/59
- ความคิดเห็น
- Facebook Comments