สลายช่องว่าง สร้าง ความเข้าใจ ในการพัฒนาองค์กร
โดย:
winai.d
[IP: 61.91.85.xxx]
เมื่อ: 2016-10-10 08:53:10
การทำงานในองค์กร ย่อมมีคนหลากหลายมุมมอง และความคิดที่แตกต่างกัน
มองในแง่ดี องค์กรนั้นย่อมมีโอกาสเติบโต หากคนในองค์กรนำความคิดที่แตกต่างมาสร้างสิ่งใหม่ ๆ ร่วมกัน
กลับกัน หากนำความคิดที่แตกต่างนำไปใช้ในการทะเลาะกัน ขัดแย้งกัน ยึดมั่นถือมั่นจากความคิดของตนเอง
องค์กรนั้นย่อมยากที่จะแข่งขันกับธุรกิจอื่น ๆ และคงย่ำอยู่กับที่รอให้องค์กรคู่แข่งแซงหน้าไปอย่างรวดเร็ว
ในฐานะของอดีตนักบริหารทรัพยากรบุคคลอย่างผม และปัจจุบันเป็นวิทยากรสอนเรื่องแนวคิด ทัศนคติเชิงบวก
ผมเองมองว่า การที่ทุกองค์กรมีความแตกต่างกันในแง่บุคลากร ย่อมเป็นเรื่องที่ดี
โดยเฉพาะความคิดที่แตกต่างของคนในแต่ละ Generation ที่มีความคิด ประสบการณ์ มุมมองที่แตกต่างกัน
หากเรานำมาหล่อหลอมรวมกัน และทำให้คนเกิดความเข้าใจ เคารพในบทบาทซึ่งกันและกัน
รวมถึงมีการสื่อสารเพื่อให้เข้าใจว่า ความคิดที่แตกต่างนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องอยู่ในกรอบของการทำงาน
เพื่อเป้าหมายขององค์กรให้เติบโต สามารถแข่งขันกับธุรกิจภายนอกได้ ความคิดนั้นย่อมดีแน่นอนครับ
ทั้งนี้เราลองมาศึกษาคนใน Generation ต่าง ๆ ที่มีในองค์กรว่า เขามีพฤติกรรมเป็นอย่างไร
ตามหลักสากล จะมีการแบ่งกลุ่มคนทำงานออกเป็น 3 กลุ่ม (Generation)
คือ Baby Boomer Generation X และ Generation Y ซึ่งแต่ละกลุ่มมีคุณลักษณะเด่นที่แตกต่างกัน
Baby Boomer
กลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2489-2507 อายุ 69 - 51 ปี
พฤติกรรม
จะเป็นคนที่มีชีวิตเพื่อการทำงาน เคารพกฎเกณฑ์ กติกา อดทน
ให้ความสำคัญกับผลงานแม้ว่าจะต้องใช้เวลานานกว่าจะประสบความสำเร็จ
มีแนวคิดที่จะทำงานหนักเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว มีความทุ่มเทกับการทำงานและองค์กรมาก
คนกลุ่มนี้จะไม่เปลี่ยนงานบ่อยเนื่องจากมีความ จงรักภักดีกับองค์กรอย่างมาก
Generation X
กลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2508-2522 อายุ 50-36 ปี
พฤติกรรม
ชอบอะไรง่ายๆ ไม่ต้องเป็นทางการ
ให้ความ สำคัญกับเรื่องความสมดุลระหว่างงานกับครอบครัว (Work-life Balance)
มีแนวคิดและการทำงานในลักษณะรู้ทุกอย่างทำทุกอย่างได้เพียงลำพัง ไม่พึ่งพาใคร
มีความคิดเปิดกว้าง พร้อมรับฟังข้อติติง เพื่อการปรับปรุงและ พัฒนาตนเอง
Generation Y
กลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2523-2543 อายุ 35-15 ปี
พฤติกรรม
มีลักษณะนิสัยชอบแสดงออก มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่ชอบอยู่ในกรอบ และไม่ชอบเงื่อนไข
ต้องการความชัดเจนในการทำงานว่า สิ่งที่ทำมีผลต่อตนเองและต่อหน่วยงานอย่างไร
มีความสามารถในการทำงานที่เกี่ยวกับการติดต่อสื่อสาร และยังสามารถทำงานหลายๆ อย่างได้ในเวลาเดียวกัน
จะเห็นว่า แต่ละ Generation มีพฤติกรรม ความเชื่อ มุมมอง ประสบการณ์ ที่แตกต่างกัน
หากความแตกต่างนั้น ทุกคนคิดว่า ฉันเก่ง ฉันแน่ ต้องฟังฉันอย่างเดียว การทำงานในองค์กรย่อมวุ่นวาย
และทำให้การเติบโตขององค์กรที่ ผู้บริหารวางวิสัยทัศน์ไปข้างหน้าย่อมสะดุด
เพราะคนในองค์กรยังเดินเป็นเต่าจากความคิดที่ขัดแย้งกัน
หากเราลองปรับทัศนคติของทั้ง 3 Generation ให้ปรับตัวและหันหน้าเข้าหากัน มากกว่าต่างคนต่างเดิน
ควรมีสิ่งใดบ้าง ดังต่อไปนี้
เคารพในความแตกต่าง
ชื่นชมในจุดเด่นของกันและกัน
สื่อสารกันให้มากขึ้น
หากเรามีทั้ง 3 ข้อข้างต้น การทำงานย่อมราบรื่นแน่นอนครับ
ดังนั้น เราลองมากำหนดวิธีการปรับตัวเข้าหากันของทั้ง 3 Generation
เพื่อสร้างความเข้าใจในการทำงานร่วมกัน และหันหน้าสร้างความเข้าใจ ดังนี้
หากทำงานร่วมกับ Baby Boomer
สร้างความเคารพ และรับฟังประสบการณ์จากการทำงานมาอย่างยาวนาน
ใช้ความอ่อนน้อมถ่อมตนเข้าหา เพื่อขอคำแนะนำ ในการทำงาน
เพิ่มความละเอียดรอบคอบก่อนส่งงาน
ตรงต่อเวลา ทุ่มเทในการทำงาน
การส่งงานอาจส่งเป็น Paper เนื่องจากไม่ถนัดเทคโนโลยี
หากทำงานร่วมกับ Generation X
การสื่อสารต้องชัดเจน กระชับ มีแผนงานที่ชัดเจน และทางเลือกก่อนนำเสนอ
สามารถสื่อสารผ่านเทคโนโลยี เช่น อีเมล์ , ข้อความ ได้ เพราะคนเหล่านี้เปิดใจเรียนรู้การใช้เทคโนโลยี
สามารถพูดคุยแบบไม่เป็นทางการได้เสมอ เช่น คุยผ่านการกินข้าว ไม่เน้นรูปแบบทางการ
ชอบชีวิตที่สมดุล ไม่ชอบทำงานหนักมากเกินไป แต่รู้จักแบ่งเวลา งาน และชีวิตไปพร้อม ๆ กัน
สามารถให้คำปรึกษาเรื่องงานได้ เพราะมีประสบการณ์มากและเชี่ยวชาญในการทำงาน
หากเราทำงานร่วมกับ Generation Y
รู้จักมอบหมายงานที่ท้าทายตลอดเวลา
เปิดใจพร้อมรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างอยู่เสมอ
ชื่นชมหากเขาทำได้ดี
ชอบสื่อสารผ่านทางเทคโนโลยี มากกว่าการสื่อสารทางวาจา
ชอบความรวดเร็วในการทำงาน คิดเร็ว ทำเร็ว
รู้จักให้โอกาสหากคนเหล่านี้ทำงานผิดพลาด เพราะประสบการณ์ยังน้อย
การทำงานในองค์กร หากเราเปิดใจ เข้าใจ รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น รู้จักปรับตัวเข้าหากันและกัน
เดินทางสายกลาง การทำงานย่อมเป็นไปในทิศทางที่สร้างสรรค์ ไอเดียดี ๆ จะไหลออกมาดั่งสายน้ำ
หากเราเป็น Baby Boomer และ Generation X
แค่เราเปิดใจรับฟังความคิดใหม่ ๆ ที่สดอยู่เสมอจาก Generation Y
ผสมผสานกับประสบการณ์ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวจากการทำงานมานาน ย่อมก่อให้เกิดไอเดียใหม่ ๆ
ดีกว่ายึดติดกับสิ่งเดิม ๆ ที่เป็นอดีตไปแล้ว เช่นกัน Generation Y
ก็ต้องรู้จักมีสัมมาคารวะ ต่อ Baby Boomer และ Generation X
ในฐานะผู้บังคับบัญชา และผู้ใหญ่ในการทำงานที่ผ่านประสบการณ์มาอย่างยาวนาน
รับฟัง เปิดใจในคำสอนเพื่อนำไปพัฒนางานตนเอง และลดความผิดพลาดที่มี
เท่านี้องค์กรย่อมพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะมีบุคลากรที่ รัก เคารพ ให้เกียรติกันและกัน
ถึงแม้ความคิดจะแตกต่าง แต่มีเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือ "สร้างองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน"
เชื่อผมเถอะ !!
การทำงานกับคน นับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะ คน คือ ปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้
แต่หากเราเข้าใจเขา เราย่อมสามารถดึงดูดและทำงานร่วมกันอย่างเข้าใจ
เพื่อผลลัพธ์ที่ดีในการทำงานที่มีเป้าหมายเดียวกันอย่างมีความสุข
หลักสูตร เทคนิคการทำงานร่วมกับคนทุน Gen ด้วยหลัก DISC
เป็นอีก 1 ผลงานที่ Dr.fish มีโอกาสได้ไปแบ่งปันความรู้ให้ผู้บริหารกลุ่ม CP
ที่ นครเวียงจันทร์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม 2559
จนทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการแบ่งปันการบริหารและเข้าใจ "คน" ผ่านเครื่องมือ DISC
และการเข้าใจคนในแต่ละวัย Generation เพื่อการเดินหน้าสู่เป้าหมายในทิศทางเดียวกัน
และลดปัญหาช่องว่างระหว่างวัย และการลดอคติในการทำงาน
เพราะ คน ย่อมมีความแตกต่างในด้านความคิด จะทำอย่างไรให้ความคิดของทุกคน
มีทิศทางเดียวกัน นั่นคือ โจทย์ที่ สถาบัน Dr.fish ขอตอบโจทย์ท่าน และพร้อมแบ่งปัน
หล่อหลอม ให้ทุกคนมีทัศนคติที่ดี และเข้าใจในตนเอง และผู้อื่น
ซึ่งในเดือน พฤษภาคม 2559 เป็นเดือนเกิดของ อ.มงคล กรัตะนุตถะ
เจ้าของสถาบัน Dr.fish และวิทยากร นักคิด นักเขียน ที่สร้างแรงบันดาลใจผู้คนและองค์กรมามากมาย
เราขอมอบสิทธิพิเศษ ให้คุณลูกค้าที่ติดตามและใช้บริการ Dr.fish อย่างต่อเนื่อง
ด้วยการจัดสัมมนา In House Training จำนวน 1 วัน (09.00-16.00 น.)
ในราคาพิเศษสุด ๆ เพียง 14,999 บาท จากราคาปกติ 25,000 บาท
เฉพาะในเดือน พฤษภาคม 2559 เท่านั้น
สิทธิพิเศษนอกเหนือจากราคาที่ท่านได้รับแล้ว เราขอมอบสิทธิพิเศษอื่น ๆ คือ
1.เอกสารประกอบการบรรยาย ฟรี
2.การให้คำปรึกษาในการพัฒนาคนและองค์กรตลอด 1 เดือนหลังจากอบรมเสร็จสิ้น ฟรี
ทั้งนี้เพื่อให้การจัดสัมมนามีประสิทธิภาพ บริษัท ฯ ขอสงวนสิทธิ์จำนวนผู้เข้าอบรมไม่เกิน 30 ท่าน
เพื่อให้เหมาะกับการทำกิจกรรม และ Work Shop ในการเรียนรู้อย่างเหมาะสมครับ
องค์กรไหนสนใจหลักสูตร "เทคนิคการทำงานร่วมกับคนทุก Gen ด้วยหลัก DISC
สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ คุณจิราวรรณ โทร 083-0445337 หรือฝากข้อความที่ด้านล่าง
และทางทีมงานจะติดต่อกลับหาท่านอย่างเร็วที่สุดครับ
ท่านสามารถติดตาม Dr.fish ได้ทาง Line แล้วตั้งแต่วันนี้ โดยทำตามขั้นตอน คือ
1.ค้นหา ID : Dr.fish กรุณากดลิงก์ด้านล่าง หรือค้นหา ID "@dr.fish" ที่ LINE หรือ LINE@
(กรุณาใส่ "@" ด้วย) แล้วเพิ่มเป็นเพื่อนของคุณ
2. คลิก Link http://line.me/ti/p/%40dr.fish
ประโยชน์ที่จะได้รับในการเป็นเพื่อนกับ dr.fish คือ
1.ได้รับข้อมูลการพัฒนาตนเองที่เป็นประโยชน์ วิธีคิดในเชิงบวก ทุกเช้า 7.30 น.ทุกวัน
2. สามารถปรึกษาการทำงาน วิธีคิดได้ตลอดเวลา ไม่ต้องเกรงใจครับ ยินดีมาก ๆ ครับ
คิดบวก คิดถึง Dr.fish
เขียนโดย อ.มงคล กรัตะนุตถะ
วิทยากร นักคิด นักเขียน
12/4/59
มองในแง่ดี องค์กรนั้นย่อมมีโอกาสเติบโต หากคนในองค์กรนำความคิดที่แตกต่างมาสร้างสิ่งใหม่ ๆ ร่วมกัน
กลับกัน หากนำความคิดที่แตกต่างนำไปใช้ในการทะเลาะกัน ขัดแย้งกัน ยึดมั่นถือมั่นจากความคิดของตนเอง
องค์กรนั้นย่อมยากที่จะแข่งขันกับธุรกิจอื่น ๆ และคงย่ำอยู่กับที่รอให้องค์กรคู่แข่งแซงหน้าไปอย่างรวดเร็ว
ในฐานะของอดีตนักบริหารทรัพยากรบุคคลอย่างผม และปัจจุบันเป็นวิทยากรสอนเรื่องแนวคิด ทัศนคติเชิงบวก
ผมเองมองว่า การที่ทุกองค์กรมีความแตกต่างกันในแง่บุคลากร ย่อมเป็นเรื่องที่ดี
โดยเฉพาะความคิดที่แตกต่างของคนในแต่ละ Generation ที่มีความคิด ประสบการณ์ มุมมองที่แตกต่างกัน
หากเรานำมาหล่อหลอมรวมกัน และทำให้คนเกิดความเข้าใจ เคารพในบทบาทซึ่งกันและกัน
รวมถึงมีการสื่อสารเพื่อให้เข้าใจว่า ความคิดที่แตกต่างนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องอยู่ในกรอบของการทำงาน
เพื่อเป้าหมายขององค์กรให้เติบโต สามารถแข่งขันกับธุรกิจภายนอกได้ ความคิดนั้นย่อมดีแน่นอนครับ
ทั้งนี้เราลองมาศึกษาคนใน Generation ต่าง ๆ ที่มีในองค์กรว่า เขามีพฤติกรรมเป็นอย่างไร
ตามหลักสากล จะมีการแบ่งกลุ่มคนทำงานออกเป็น 3 กลุ่ม (Generation)
คือ Baby Boomer Generation X และ Generation Y ซึ่งแต่ละกลุ่มมีคุณลักษณะเด่นที่แตกต่างกัน
Baby Boomer
กลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2489-2507 อายุ 69 - 51 ปี
พฤติกรรม
จะเป็นคนที่มีชีวิตเพื่อการทำงาน เคารพกฎเกณฑ์ กติกา อดทน
ให้ความสำคัญกับผลงานแม้ว่าจะต้องใช้เวลานานกว่าจะประสบความสำเร็จ
มีแนวคิดที่จะทำงานหนักเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว มีความทุ่มเทกับการทำงานและองค์กรมาก
คนกลุ่มนี้จะไม่เปลี่ยนงานบ่อยเนื่องจากมีความ จงรักภักดีกับองค์กรอย่างมาก
Generation X
กลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2508-2522 อายุ 50-36 ปี
พฤติกรรม
ชอบอะไรง่ายๆ ไม่ต้องเป็นทางการ
ให้ความ สำคัญกับเรื่องความสมดุลระหว่างงานกับครอบครัว (Work-life Balance)
มีแนวคิดและการทำงานในลักษณะรู้ทุกอย่างทำทุกอย่างได้เพียงลำพัง ไม่พึ่งพาใคร
มีความคิดเปิดกว้าง พร้อมรับฟังข้อติติง เพื่อการปรับปรุงและ พัฒนาตนเอง
Generation Y
กลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2523-2543 อายุ 35-15 ปี
พฤติกรรม
มีลักษณะนิสัยชอบแสดงออก มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่ชอบอยู่ในกรอบ และไม่ชอบเงื่อนไข
ต้องการความชัดเจนในการทำงานว่า สิ่งที่ทำมีผลต่อตนเองและต่อหน่วยงานอย่างไร
มีความสามารถในการทำงานที่เกี่ยวกับการติดต่อสื่อสาร และยังสามารถทำงานหลายๆ อย่างได้ในเวลาเดียวกัน
จะเห็นว่า แต่ละ Generation มีพฤติกรรม ความเชื่อ มุมมอง ประสบการณ์ ที่แตกต่างกัน
หากความแตกต่างนั้น ทุกคนคิดว่า ฉันเก่ง ฉันแน่ ต้องฟังฉันอย่างเดียว การทำงานในองค์กรย่อมวุ่นวาย
และทำให้การเติบโตขององค์กรที่ ผู้บริหารวางวิสัยทัศน์ไปข้างหน้าย่อมสะดุด
เพราะคนในองค์กรยังเดินเป็นเต่าจากความคิดที่ขัดแย้งกัน
หากเราลองปรับทัศนคติของทั้ง 3 Generation ให้ปรับตัวและหันหน้าเข้าหากัน มากกว่าต่างคนต่างเดิน
ควรมีสิ่งใดบ้าง ดังต่อไปนี้
เคารพในความแตกต่าง
ชื่นชมในจุดเด่นของกันและกัน
สื่อสารกันให้มากขึ้น
หากเรามีทั้ง 3 ข้อข้างต้น การทำงานย่อมราบรื่นแน่นอนครับ
ดังนั้น เราลองมากำหนดวิธีการปรับตัวเข้าหากันของทั้ง 3 Generation
เพื่อสร้างความเข้าใจในการทำงานร่วมกัน และหันหน้าสร้างความเข้าใจ ดังนี้
หากทำงานร่วมกับ Baby Boomer
สร้างความเคารพ และรับฟังประสบการณ์จากการทำงานมาอย่างยาวนาน
ใช้ความอ่อนน้อมถ่อมตนเข้าหา เพื่อขอคำแนะนำ ในการทำงาน
เพิ่มความละเอียดรอบคอบก่อนส่งงาน
ตรงต่อเวลา ทุ่มเทในการทำงาน
การส่งงานอาจส่งเป็น Paper เนื่องจากไม่ถนัดเทคโนโลยี
หากทำงานร่วมกับ Generation X
การสื่อสารต้องชัดเจน กระชับ มีแผนงานที่ชัดเจน และทางเลือกก่อนนำเสนอ
สามารถสื่อสารผ่านเทคโนโลยี เช่น อีเมล์ , ข้อความ ได้ เพราะคนเหล่านี้เปิดใจเรียนรู้การใช้เทคโนโลยี
สามารถพูดคุยแบบไม่เป็นทางการได้เสมอ เช่น คุยผ่านการกินข้าว ไม่เน้นรูปแบบทางการ
ชอบชีวิตที่สมดุล ไม่ชอบทำงานหนักมากเกินไป แต่รู้จักแบ่งเวลา งาน และชีวิตไปพร้อม ๆ กัน
สามารถให้คำปรึกษาเรื่องงานได้ เพราะมีประสบการณ์มากและเชี่ยวชาญในการทำงาน
หากเราทำงานร่วมกับ Generation Y
รู้จักมอบหมายงานที่ท้าทายตลอดเวลา
เปิดใจพร้อมรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างอยู่เสมอ
ชื่นชมหากเขาทำได้ดี
ชอบสื่อสารผ่านทางเทคโนโลยี มากกว่าการสื่อสารทางวาจา
ชอบความรวดเร็วในการทำงาน คิดเร็ว ทำเร็ว
รู้จักให้โอกาสหากคนเหล่านี้ทำงานผิดพลาด เพราะประสบการณ์ยังน้อย
การทำงานในองค์กร หากเราเปิดใจ เข้าใจ รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น รู้จักปรับตัวเข้าหากันและกัน
เดินทางสายกลาง การทำงานย่อมเป็นไปในทิศทางที่สร้างสรรค์ ไอเดียดี ๆ จะไหลออกมาดั่งสายน้ำ
หากเราเป็น Baby Boomer และ Generation X
แค่เราเปิดใจรับฟังความคิดใหม่ ๆ ที่สดอยู่เสมอจาก Generation Y
ผสมผสานกับประสบการณ์ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวจากการทำงานมานาน ย่อมก่อให้เกิดไอเดียใหม่ ๆ
ดีกว่ายึดติดกับสิ่งเดิม ๆ ที่เป็นอดีตไปแล้ว เช่นกัน Generation Y
ก็ต้องรู้จักมีสัมมาคารวะ ต่อ Baby Boomer และ Generation X
ในฐานะผู้บังคับบัญชา และผู้ใหญ่ในการทำงานที่ผ่านประสบการณ์มาอย่างยาวนาน
รับฟัง เปิดใจในคำสอนเพื่อนำไปพัฒนางานตนเอง และลดความผิดพลาดที่มี
เท่านี้องค์กรย่อมพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะมีบุคลากรที่ รัก เคารพ ให้เกียรติกันและกัน
ถึงแม้ความคิดจะแตกต่าง แต่มีเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือ "สร้างองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน"
เชื่อผมเถอะ !!
การทำงานกับคน นับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะ คน คือ ปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้
แต่หากเราเข้าใจเขา เราย่อมสามารถดึงดูดและทำงานร่วมกันอย่างเข้าใจ
เพื่อผลลัพธ์ที่ดีในการทำงานที่มีเป้าหมายเดียวกันอย่างมีความสุข
หลักสูตร เทคนิคการทำงานร่วมกับคนทุน Gen ด้วยหลัก DISC
เป็นอีก 1 ผลงานที่ Dr.fish มีโอกาสได้ไปแบ่งปันความรู้ให้ผู้บริหารกลุ่ม CP
ที่ นครเวียงจันทร์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม 2559
จนทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการแบ่งปันการบริหารและเข้าใจ "คน" ผ่านเครื่องมือ DISC
และการเข้าใจคนในแต่ละวัย Generation เพื่อการเดินหน้าสู่เป้าหมายในทิศทางเดียวกัน
และลดปัญหาช่องว่างระหว่างวัย และการลดอคติในการทำงาน
เพราะ คน ย่อมมีความแตกต่างในด้านความคิด จะทำอย่างไรให้ความคิดของทุกคน
มีทิศทางเดียวกัน นั่นคือ โจทย์ที่ สถาบัน Dr.fish ขอตอบโจทย์ท่าน และพร้อมแบ่งปัน
หล่อหลอม ให้ทุกคนมีทัศนคติที่ดี และเข้าใจในตนเอง และผู้อื่น
ซึ่งในเดือน พฤษภาคม 2559 เป็นเดือนเกิดของ อ.มงคล กรัตะนุตถะ
เจ้าของสถาบัน Dr.fish และวิทยากร นักคิด นักเขียน ที่สร้างแรงบันดาลใจผู้คนและองค์กรมามากมาย
เราขอมอบสิทธิพิเศษ ให้คุณลูกค้าที่ติดตามและใช้บริการ Dr.fish อย่างต่อเนื่อง
ด้วยการจัดสัมมนา In House Training จำนวน 1 วัน (09.00-16.00 น.)
ในราคาพิเศษสุด ๆ เพียง 14,999 บาท จากราคาปกติ 25,000 บาท
เฉพาะในเดือน พฤษภาคม 2559 เท่านั้น
สิทธิพิเศษนอกเหนือจากราคาที่ท่านได้รับแล้ว เราขอมอบสิทธิพิเศษอื่น ๆ คือ
1.เอกสารประกอบการบรรยาย ฟรี
2.การให้คำปรึกษาในการพัฒนาคนและองค์กรตลอด 1 เดือนหลังจากอบรมเสร็จสิ้น ฟรี
ทั้งนี้เพื่อให้การจัดสัมมนามีประสิทธิภาพ บริษัท ฯ ขอสงวนสิทธิ์จำนวนผู้เข้าอบรมไม่เกิน 30 ท่าน
เพื่อให้เหมาะกับการทำกิจกรรม และ Work Shop ในการเรียนรู้อย่างเหมาะสมครับ
องค์กรไหนสนใจหลักสูตร "เทคนิคการทำงานร่วมกับคนทุก Gen ด้วยหลัก DISC
สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ คุณจิราวรรณ โทร 083-0445337 หรือฝากข้อความที่ด้านล่าง
และทางทีมงานจะติดต่อกลับหาท่านอย่างเร็วที่สุดครับ
ท่านสามารถติดตาม Dr.fish ได้ทาง Line แล้วตั้งแต่วันนี้ โดยทำตามขั้นตอน คือ
1.ค้นหา ID : Dr.fish กรุณากดลิงก์ด้านล่าง หรือค้นหา ID "@dr.fish" ที่ LINE หรือ LINE@
(กรุณาใส่ "@" ด้วย) แล้วเพิ่มเป็นเพื่อนของคุณ
2. คลิก Link http://line.me/ti/p/%40dr.fish
ประโยชน์ที่จะได้รับในการเป็นเพื่อนกับ dr.fish คือ
1.ได้รับข้อมูลการพัฒนาตนเองที่เป็นประโยชน์ วิธีคิดในเชิงบวก ทุกเช้า 7.30 น.ทุกวัน
2. สามารถปรึกษาการทำงาน วิธีคิดได้ตลอดเวลา ไม่ต้องเกรงใจครับ ยินดีมาก ๆ ครับ
คิดบวก คิดถึง Dr.fish
เขียนโดย อ.มงคล กรัตะนุตถะ
วิทยากร นักคิด นักเขียน
12/4/59
- ความคิดเห็น
- Facebook Comments
