เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2561 ร.ต.อ.ทินกร ปาติโต รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ บริษัท พี.ซี.ไอ.อุตสาหกรรมกระดาษ จำกัด เลขที่ 247 หมู่ 2 ถนนท้ายบ้าน หมู่ 2 ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรปราการ บริษัทผลิตกระดาษและส่งออกกระดาษ เนื้อที่กว่า 5 ไร่ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยนายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ และรถดับเพลิงเทศบาลตำบลบางปู และใกล้เคียง จำนวนกว่า 50 คัน เดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานอุตสาหกรรมกระดาษใหญ่ เนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ พบเพลิงกำลังลุกไหม้กองกระดาษอัดก้อนที่วางกองอยู่ในโกดังด้านหลังจำนวนมากนับพันก้อน โดยเพลิงได้ลุกโหมอย่างรุนแรงเนื่องจากในที่เกิดเหตุเป็นกระดาษอัดก้อนที่มีความควบแน่นน้ำหนักก้อนละกว่า 750 กิโลกรัม จึงกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีทำให้เปลวเพลิงลุกโหมอย่างรุนแรง ก่อนลุกลามไปลุกไหม้กองม้วนกระดาษขนาดใหญ่ที่ผลิตเสร็จแล้วเตรียมส่งออกต่างประเทศ ที่วางตั้งเรียงรายเอาไว้หลายพันก้อน ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังช่วยกันระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงอยู่นานกว่า 4 ชั่วโมงก็ยังไม่สามารถสกัดเพลิงเอาไว้ได้ เพลิงได้ลุกลามเข้ามาลุกไหม้ตัวอาคารสำนักงานที่อยู่ด้านหน้าอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องรีบถอยรถดับเพลิงออกมากันจ้าละหวั่นเนื่องจากเกรงว่าจะถูกเปลวไฟล้อมออกไม่ได้ ขณะเดียวกัน คนงานในบริษัทดังกล่าวได้นำรถฟอร์กลิฟต์จำนวนหลายคันมาทำการเคลื่อนย้ายม้วนกระดาษออกมาวางด้านนอก แต่เคลื่อนย้ายออกมาได้เพียงไม่ถึงร้อยก้อน เพลิงได้ลุกลามเข้ามาลุกไหม้กองม้านกระดาษอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องยุติการเคลื่อนย้ายก่อนที่จะรถฟอร์กลิฟต์และรถอื่นๆ ทั้งหมดออกมาจากภายในโรงงานมาจอดด้านนอกอย่างรวดเร็ว ขณะที่เพลิงยังคงลุกโหมอย่างรุนแรง ทำให้โครงเหล็กหลังคาเกิดถล่มลงมา
ขณะเดียวกัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการได้ประสานขอรถดับเพลิงจากส่วนกลางในกรุงเทพมหานคร และหน่วยป้องกันบรรเทาสาธารณภัยได้ส่งรถดับเพลิง พร้อมด้วยน้ำยาโฟมเข้ามาช่วยพร้อมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพจากโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด มากองจุดคัดกรองห่างจากจุดที่เกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร เพื่อให้ความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากควันไฟ
จากการสอบถาม น.ส.พรอุมา กำดี อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นพนักงานฝ่ายบุคคลของบริษัท ได้เล่าว่า บริษัทดังกล่าวมีนายอภิชาติ เจนสถิตวงศ์ เป็นประธานกรรมการบริหารขณะเกิดเหตุไม่อยู่ที่บริษัท และช่วงเวลา 17.00 น. เป็นช่วงที่พนักงานจำนวนประมาณ 300 คน กำลังเปลี่ยนกะเข้าทำงาน มีพนักงานส่วนหนึ่งประมาณ 50 คน กำลังทำงานล่วงเวลา ระหว่างนั้นได้มีพนักงานวิ่งมาบอกว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่กองกระดาษด้านหลังโรงงาน ตนจึงได้รีบวิ่งไปดูพบเพลิงได้กำลังลุกไหม้กองกระดาษซึ่งอัดแท่งเป็นก้อนสี่เหลี่ยม ที่วางกองเอาไว้ทางด้านซ้ายของโกดัง ซึ่งเป็นจุดที่มีการต่อเติมโครงสร้างหลังคายังไม่แล้วเสร็จ ก่อนเพลิงจะลุกไหม้อย่างรวดเร็วลามเข้ามาลุกไหม้กองกระดาษด้านใน คนงานได้พยายามจะใช้ถังดับเพลิงเข้าไปฉีดสกัดเพลิง แต่ไม่สามารถสกัดเพลิงเอาไว้ได้ เพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว จึงได้โทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เวลาผ่านไป 5 ชั่วโมง เพลิงก็ยังไม่สงบ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำได้เพียงฉีดน้ำสกัดเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดไม่ให้ลุกลามขยายวงกว้างออกไปเพียงเท่านั้น แต่เปลวเพลิงยังคงลุกไหม้อยู่อย่างไม่มีทีท่าว่าจะดับลง ส่วนค่าเสียหายเบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
ส่วนสาเหตุเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า อาจจะเกิดจากสะเก็ดไฟที่มีการเชื่อมขยายโครงหลังคาทางด้านหลังข้างซ้ายของโกดัง ซึ่งเป็นจุดต้นเพลิงที่มีผู้พบเห็นว่าเกิดจากบริเวณดังกล่าว คาดว่าระหว่างที่เชื่อมโครงหลังคาสะเก็ดไปอาจจะตกลงมาในกองกระดาษอัดแท่ง ด้วยความควบแน่นของก้อนกระดาษจึงไม่ทำให้เกิดเปลวไฟขึ้นในทันที่ แต่จะค่อยๆ สะสมความร้อนจนถึงจุดลุกไหม้จึงเกิดเปลวไฟลุกไหม้ขึ้นดังกล่าว ก่อนลุกลามไปยังจุดอื่นๆ แต่อย่างไรก็ตาม จะได้ประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการเข้าตรวจหาสาเหตุที่ทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ที่แท้จริง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ล่าสุด หัวหน้าสถานีดับเพลิงเทศบาลบางปูเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด และไม่ลุกลามไปยังโกดังข้างเคียงได้แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องระดมฉีดน้ำตลอดทั้งคืน โดยใช้วิธีล้อมเพลิงและฉีดน้ำให้ไหลลงไปด้านล่างของกองกระดาษ เพื่อไม่ให้ไฟปะทุขึ้นมาอีก
เหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีคนได้รับเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งจุดเกิดเพลิงไหม้เป็นโกดัง 4 โกดังหลังคาเดียวกัน เป็นที่เก็บสต๊อกระดาษเก่าเสียหายางส่วน มีโครงเหล็กยุบตัวลงมา มีโรลกระดาษที่ถูกเพลิงไหม้ไปบางส่วน ส่วนกลุ่มควันที่ลอยออกมาไม่ส่งผลกระทบชุมชนใกล้เคียงเพราะอยู่ห่างบ้านเรือนประชาชนพอสมควร
