-
-
ความรู้ดีดีจากประสบการณ์ จป
-
คำศัพท์ทางความปลอดภัย
-
กฏหมาย จป ฉบับใหม่
-
ภาพเกี่ยวกับSafety
-
ภาพเสี่ยงอันตรายและปลอดภัย
-
ภาพกราฟฟิตเกี่ยวกับ SAFETY
-
การกระทำที่ไม่ปลอดภัย Unsafe Act
-
สภาพการณ์ที่ไม่ปลอดภัย
-
ภาพโปรเตอร์
-
ความปลอดภัยในวัด
-
ภาพกระทำไม่ปลอดภัย สภาพการณ์ไม่ปลอดภัย Near Miss ,Accident
-
ภาพบันไดที่ปลอดภัย
-
ภาพโปรเตอร์ความปลอดภัยในที่อับอากาศ
-
ภาพสื่อกฏหมาย พรบ.
-
ภาพความปลอดภัยในWarehouse
-
หญิงตั้งครรภ์
-
ภาพความปลอดภัยเครื่องจักร
-
ปรับเปลี่ยนให้ปลอดภัย
-
ดับเพลิง
-
ภาพจุดเสี่ยงอันตรายในสถานประกอบการ
-
ภาพเสี่ยงอันตราย ปรับให้ปลอดภัย
-
-
5ส
-
ความเป็นมาของ 5ส และบทความ
-
คลิปสื่อการอบรมกิจกรรม 5 ส
-
5 ส ในโรงงาน ส สะสาง
-
5 ส ในโรงงาน สะดวก
-
5 ส ในโรงงาน ส สะอาด
-
5ส ในโรงงาน สร้างมาตรฐาน
-
5 ส ในโรงงาน ส สร้างนิสัย
-
ประโยชน์ของการทำกิจกกรม 5 ส
-
5ส และ Visual Control
-
โปรเตอร์ 5 ส
-
การตรวจและประเมินผล
-
ภาพเปรียบเที่ยบก่อนทำและหลังทำ
-
ตัวอย่างบริษัทที่ทำ 5 ส เปรียบเสมีอนเราไปดูงานจริง
-
บอร์ดทำกิจกรรม 5 ส
-
ป้ายประชาสัมพันธุ์ในโรงงาน
-
5ส เพื่อตัวเอง
-
เครื่องมือและเทคนิคการส่งเสริมความปลอดภัย
-
5ส องค์ประกอบของการเพิ่มผลผลิต QCDSMPEE หรือ Big Q
-
ถังขยะ
-
ทีมคณะกรรมการ 5ส
-
ปัญหา อุปสรรค และแนวทางการทำ 5ส ให้ประสบความสำเร็จ
-
1 วันกับ 5ส
-
Big Cleaning Day
-
5ส ที่มองไม่เห็น
-
คู่มือ 5ส
-
ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อความสำเร็จในการทำกิจกรรม 5ส
-
สีที่ใช้ในโรงงาน
-
Thailand 5S Award 2022
-
-
5ส โรงพยาบาล
-
5ส เพื่อความปลอดภัย
-
Safety Mind การสร้างจิตสำนึกความปลอดภัย
-
ปรับเปลี่ยนให้ปลอดภัย
-
JSA เทคนิควิเคราะห์งานเพื่อความปลอดภัย
-
KYT การหยั่งรู้ระวังอันตราย
-
ฮิยาริ Hiyari hatto
-
การชี้บ่งอันตรายและการประเมินความเสี่ยง
-
สาระสำคัญของการประเมินความเสี่ยงอันตรายของสวัสดิการจังหวัดชลบุรี
-
ผู้ชำนาญการฯกับสรุปสาระการประเมินความเสี่ยง
-
การชี้บ่งอันตรายและการประเมินความเสี่ยง
-
การวิเคราะห์เพื่อควบคุมความสูญเสีย
-
การป้องกันอุบัติเหตุ 3 E
-
วิธีปลูกฝังความปลอดภัยให้พนักงาน
-
7 เทคนิควิธี การชี้บ่งอันตรายใช้สำหรับการประเมินความเสี่ยง
-
-
ฺฺBBS ปลูกฝังพฤติกรรมปลอดภัย
-
ไฟล์ข้อมูลการสังเกตุพฤติกรรม
-
การพูด
-
ทำไม ต้อง BBS
-
BBS : (Behavior-based safety) การปลูกฝังพฤติกรรมความปลอดภัย
-
SOT : Safety Observation Tour
-
ผมเชื่อพฤติกรรมเปลี่ยนได้
-
Safety with Krisana
-
การ์ด..การพยากรณ์ความปลอดภัย และยุทธวิธีสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กร
-
ทฤษฎี ABC
-
ประสบการณ์ในการทำ BBS
-
การพัฒนาความปลอดภัยต้องควบคุมพฤติกรรม
-
ปิรามิดความปลอดภัย
-
BBS:what if พูดให้คิด ดีกว่าบอกให้เขาทำ
-
ภาพจุดเสี่ยงอันตรายในโรงงานสำหรับฝึก BBS
-
BBS ตัวอย่างที่ SP GROUP
-
วัฒนธรรมความปลอดภัย แต่ละบริษัท
-
การสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย
-
-
SOT : Safety observation Tour
-
หยุด เรียก รอ
-
HORENSO
-
มาตรการอนุรักษ์การได้ยิน
-
Safety Talk ก่อนทำงาน
-
Safety Talk
-
Safety Talk Show
-
โรคจากการทำงาน
-
การยศาสตร์
-
การสอบสวนอุบัติเหตุ
-
ทักษะหัวหน้างาน บทบาทหน้าที่
-
ภาวะผู้นํา (Leadership)
-
การขับขี่ปลอดภัย (Defensive Driving)
-
ขับขี่ปลอดภัยเชิงป้องอุบัติเหตุ
-
น้ำหนักบรรทุกของรถขนส่ง
-
สาเหตุที่ลูกค้าร้องเรียน
-
คลิปอุบัติเหตุเกี่ยวกับการขับขี่ปลอดภัย
-
คลิปเตือนภัยสำหรับรถจักรยานยนต์
-
ขับขี่ปลอดภัยรถขนส่งสารเคมีอันตราย
-
แนะนำวิธีรับมือเหตุฉุกเฉินบนรถบัสเบื้องต้นครับ
-
มาตรการป้องกันและระงับเหตุไฟไหม้รถบัสรับส่งนักเรียน
-
มารยาทของพนักงานขับรถบรรทุก
-
อุบัติเหตุบนถนน ภัยจากการเดินทาง แนะนำผู้ขับขี่ปลอดภัย
-
-
Kaizen&Ssfety
-
แผ่นดินไหว
-
................................
-
การยศาสตร์เพื่อความปลอดภัย
-
ความปลอดภัยด้านเครื่องจักร
-
ความปลอดภัยสารเคมีอันตราย
-
การควบคุมและความปลอดภัยของสารเคมีอันตราย
-
คู่มือเกี่่ยวกับสารเคมีและสารอันตราย
-
อันตรายจากสารเคมีเข้าตา
-
SDS มาจากคำเต็มว่า Safety Data Sheet
-
โรงงานที่ต้องจัดให้มีบุคคลากรเฉพาะ(บฉ)
-
การเก็บสารเคมีให้ถูกต้อง
-
ไฟล์อบรมสารเคมีอันตราย
-
โปรเตอร์สารเคมีอันตราย
-
แผนรองรับเหตุฉุกเฉินสารเคมีรั่วไหล
-
PPE
-
ประเมินสุขภาลูกจ้างกรณีการใช้สารเคมี
-
เกร็ดความรู้จาก สสปท
-
กฏหมายเคมี
-
การรายงานสารเคมีอันตราย
-
-
ความปลอดภัยสารไวไฟ
-
ความปลอดภัยด้านไฟฟ้า
-
ความปลอดภัยด้านไฟฟ้า
-
การรับรองความรู้ความสามารถช่างไฟฟ้าภายในอาคาร
-
กฏหมายเกี่ยวกับความปลอดภัยไฟฟ้า
-
โปรเตอร์เกี่ยวกับไฟฟ้า
-
กฏหมายเกี่ยวกับไฟฟ้า
-
การ์ตูนความปลอดภัยเกี่ยวกับไฟฟ้าในงานก่อสร้าง
-
คลิปความปลอดภัยด้านไฟฟ้า
-
โปรเตอร์เกี่ยวกับไฟฟ้า
-
คลิปอุบัติเหตุจากไฟฟ้า
-
จ้าของบ้านต้องรู้ไว้ สมอ.ออกกฎใหม่
-
คู่มือแบบตรวจสอบพร้อมคาอธิบาย (Checklist) มาตรการการป้องกันอัคคีภัยในสถานประกอบกิจการ
-
ไฟล์ความรู้ความปลอดภัยไฟฟ้าโหลดได้
-
หลักการป้องกันและควบคุมอันตราย จากสภาพแวดล้อมในการทำงาน
-
-
ความปลอดภัยเกี่ยวกับอัคคีภัย
-
การป้องกันเหตุอัคคีภัย
-
แนวการจัดทํา แผนป้องกันและระงับอัคคีภัย
-
โปรเตอร์รณรงค์การป้องกันอัคคีภัย
-
สตง.ตรวจพบโรงภาพยนตร์ทั้งหมดใน กทม.มีระบบป้องกันอัคคีภัยไม่ได้มาตรฐาน
-
ป้องกันเพลิงไห้มและไฟป่า
-
ความปลอดภัยอัคคีภัย2
-
คลิปวีดีโอความปลอดภัยเกี่ยวกับอัคคีภัย
-
ถังดับเพลิง
-
การซ้อมแผนดับเพลิง-หนีไฟ
-
Checklist ดับเพลิงในสถานประกอบการ
-
เส้นทางหนีไฟ หนทางความปลอดภัยที่ไม่ควรมองข้าม
-
-
ความปลอดภัย สภาพแวดล้อม
-
ความปลอดภัยงานเชื่อมไฟฟ้า
-
ความปลอดภัยเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายและการจัดเก็บ
-
ความปลอดภัยรถบรรทุกขนส่ง
-
ความปลอดภัยยานพาหนะ
-
ทางร่วมทางแยกอันตรายที่ต้องระวัง
-
กฎการขับรถอย่างปลอดภัย
-
ถุงลมเสริมความปลอดภัย เข็มขัดนิรภัย ท่านั่งขับรถ ความปลอดภัยที่ไม่ควรมองข้าม
-
แนวปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
-
การเตรียมตัวก่อนทำการขับรถ
-
ความปลอดภัยรถตู้
-
จุดชาร์ตแบตเตอรี่ของรถโฟร์คลิฟท์ในตัวอาคาร มีวิธีการอย่างไร
-
วิธีเอาตัวรอด....เมื่อยางรถระเบิด เวลาขับรถ
-
จ่อคลอดกม.คุมเข้มรถบรรทุกถังแอลพีจี
-
ไฟล์อบรม และแบบทดสอบรถยกฟลอคลิท์
-
สาระน่ารู้! สิ่งที่ร้านยางไม่เคยบอก และเจ้าของรถควรรู้ การใส่ยางที่ถูกต้อง
-
เรื่องยางรถยนต์
-
กฏหมายจราจรใหม่ 2565
-
-
ความปลอดภัยรถยก
-
ความปลอดภัยในงานก่อสร้าง
-
ไฟล์การทำงานบนที่สูง1
-
คู่มือความปลอดภัยในการทำงานบนที่สูง
-
อันตรายจากนั่งร้าน
-
คู่มือ
-
คู่มือความปลอดภัยการเชื่อมภาษาพม่า
-
ข้อมูลการบริหารจัดการในภาพรวม
-
การวิเคระห์ความเสี่ยงในการก่อสร้างอาคารสูง
-
10 ขั้นตอน #ตรวจความปลอดภัยให้ได้งาน 10 Steps for a Successful Safety Site Visit
-
บันไดทำงานบนที่สูง
-
คลิปความปลอดภัยงานก่อสร้าง
-
ไฟล์ อบรมงานก่อสร้าง
-
wi การทำงานนั่งร้าน
-
Check list ทำงานบนที่สูง
-
Check list งานก่อสร้าง
-
-
ความปลอดภัยทำงานบนที่สูง
-
ความปลอดภัยที่อับอากาศ
-
ไฟล์ข้อมูลที่อับอากาศ
-
คู่มือการตรวจสุุขภาพที่อับอากาศ โดย สมาคมโรคจากการประกอบอาชี
-
15 สิ่งที่ทำงานในที่อบอากาศให้ปลอดภัย
-
มาตรฐานความปลอดภัยในการทำงานในสถานที่อับอากาศ ตามกฏหมายความปลอดภัยในการทำงาน
-
WI งานที่อับอากาศ
-
แนวปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยในการปฏิบัติงานในสถานที่อับอากาศ
-
โปรเตอร์ที่อับอากาศ
-
ตัวอย่างหนังสือแต่งตั้ง ผู้อนุญาตทำงานที่อับอากาศ
-
-
ความปลอดภัยด้านหินเจียร
-
ความปลอดภัยการยกสิ่งของ
-
ความปลอดภัยด้านเครน
-
ความปลอดภัยงานเชื่อม
-
ความปลอดภัยในโรงเรียน
-
โครงการ โรงเรียนปลอดภัย
-
อุปกรณ์ส่งเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก
-
คลิปความปลอดภัยเกี่ยวกับเด็ก
-
อุบัติเหตุในโรงเรียน
-
อันตรายจากรถตู้รับส่งเด็กนักเรียน
-
การบรรยายด้านความปลอดภัย
-
กิจกรรมให้น้องๆที่โรงเรียน
-
โครงการโรงเรียนต้นแบบด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย ร่วมกับ โรงเรียนจิตรลดา (สายวิชาชีพ)
-
อันตรายจากที่บ้าน
-
คลิปวีดีโอความปลอดภัยในโรงเรียน
-
-
ความปลอดภัยด้านรังสี
-
Lock Out Tag Out
-
บทความ Safety
-
ความปลอดภัยในการทำงาน
-
ปัจจัยเสี่ยงที่มีผลต่อสุขภาพ.
-
กฏหมาย พรบ.อาชีวอนามัยและความปลอดภัย
-
................................
-
อุบัติเหตุจากการทำงาน
-
อุบัติเหตุจากการทำงานและตัวอย่างแนวทางการป้องกันแก้ไข
-
อุบัติเหตุในการทำงาน
-
อุบัติเหตุตกจากที่สูง
-
อุบัติเหตุการระเบิด
-
อุบัติเหตที่เกิดจากสิ่งของ อุปกรณ์
-
อุบัติเหตุจากเครื่องจักร
-
อุบัติเหตุจากเครื่องมือ
-
อุบัติเหตุงานก่อสร้าง
-
อุบัติเหตุโรงงานไฟไหม้
-
อุบัตฺเหตุจากไฟฟ้า
-
อุบัตฺเหตุจากรถยกโฟลคลิฟท์
-
อุบัติเหตุในการทำงานส่วนอื่นๆ
-
อุบัติเหตุจากโทรศัพท์
-
อุบัติเหตุที่อับอากาศ
-
อุบัติเหตุจากแก๊ส สารเคมีไวไฟ
-
อุบัติเหตุไม่ปิดเครื่องจักรก่อนแก้ไขงาน
-
อุขัติเหตุจากงานเช่ื่อม
-
อุบัติเหตุเกี่ยวกับสารเคมีอันตราย
-
ถอดบทเรียนอุบัติเหตุ
-
3E และมาตรกรป้องกัน
-
-
อุบัติเหตุในชีวิตประจำวัน
-
อันตรายจากการใช้โทรศัพท์
-
Clip Safety & Accident
-
คลิปด้านการบริหารความปลอดภัย
-
คลิปการกระทำไม่ปลอดภัย
-
Clipเกี่ยวกับรถยก forklift
-
คลิปเกี่ยวกับการจราจร
-
คลิปเกี่ยวกับโทรศัพท์
-
คลิปเกี่ยวกับเครื่องจักร
-
คลิปเกี่ยวกับการทำงานทั่วไป
-
คลิปเกี่ยวกับไฟฟ้า
-
คลิปอบรมพนักงานใหม่
-
คลิปความปลอดภัยผู้มาเยี่ยมเยือน
-
คลิปLean Behavior Based Safety
-
คลิปเกี่ยวกับPPE อุปกรณ์คุ้มครองส่วนบุคคล
-
คลิปความปลอดดภัย Warehouse
-
คลิปอันตรายบันไดเลื่อน
-
คลิปความปลอดภัยเกี่ยวกับการใช้บันไดทำงานบนทีี่สูง
-
-
................................
-
ประตูความปลอดภัย Safety Gate
-
บอร์ดความปลอดภัย
-
Safety Week
-
Safety Plan
-
สื่อความปลอดภัยภาษาต่างประเทศ
-
คู่มือความปลอดภัยในการทำงานภาษาพม่า
-
ความปลอดภัยด้านไฟฟ้าภาษาพม่า
-
การป้องกันอัคคีภัย ภาษาพม่า
-
การใช้บันไดถูกวิธี ภาษาพม่า
-
กิจกรรมรณรงค์ 5 ส. (ภาษา ไทย กัมพูชา และเมียนมาร์)
-
ความปลอดภัยเครื่องจักร ภาษาพม่า
-
โปรเตอร์ความปลอดภัยภาษาต่างประเทศ
-
งานก่อสร้าง (6ภาษา)
-
คลิปเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าว
-
ป้ายเตือนภายในโรงงาน ภาษาต่างด้าว
-
ป้ายงานก่อสร้าง ภาษาต่างด้าว
-
ข้อปฏิบัติการดับเพลิงและอพยพหนีไฟภาษาลาว กัมพูชาและพม่า
-
-
คู่มือความปลอดภัย
-
คู่มือความปลอดภัยของบริษัท
-
คู่มือความปลอดภัยนานาชาติ
-
คู่มือ รปภ
-
ทางหนีไฟ
-
SOP เอกสารคู่มือการปฏิบัติงาน (Standard Operating Procedure, SOP)
-
คู่มือและกฎระเบียบการปฏิบัติงานกับระบบไฟฟ้าตามที่กฎหมายกำหนด
-
คู่มือความปลอดภัยของผู้รับเหมา
-
คู่มือความปลอดภัยในการขับรถยกโฟคคลิฟท์
-
คู่มือความปลอดภัยในที่อับอากาศ
-
คู่มือความปลอดภัย 2554
-
คู่มือความปลอดดภัย สสปท
-
คู่มือความปลอดภัยในการทำงานโรงงานอาหาร
-
คู่มือควบคุมดูแลสุขอนามัยในโรงงานอุตสาหกรรม
-
แจกไฟล์หนังสือด้านความปลอดภัย
-
-
สิ่งแวดล้อม
-
PPE
-
ซ้อมแผนฉุกเฉิน
-
กิจกรรมดีตามบริษัทฯ
-
Safety กับหน่วยงานราชาการ
-
คปอ
-
ผู้รับเหมา
-
สำหรับน้อง จป ใหม่
-
ฝึกงานเราเรียนรู้ในเรื่องอะไร
-
รายงาน จปว
-
งาน จป
-
จป. คืออะไร
-
จป.วิชาชีพ จบใหม่ เข้าทำงานครั้งแรกต้องทำอะไรก่อน
-
ซ้อมแผนอพยพหนีไฟ
-
อบรมความปลอดภัย
-
หัวหน้างานและลูกน้อง
-
ตรวจความปลอดภัยและตรวจสภาพแวดล้อม
-
อุปกรณ์ป้องกันอันตรายของเครื่องจักร
-
สิ่งแวดล้อม
-
ระบบป้องกันและระงับอัคคีภัย
-
สุขภาพร่างกาย
-
สวัสดิการในสถานประกอบกิจการ
-
กิจกรรมเพื่อส่งเสริมและกระตุ้นจิตสำนึกของลูกจ้าง
-
เทคนิคPresentงานให้ปังเเละมั่นใจ
-
แบบฟอร์มที่ควรนำเอาไปใช้
-
หลักสูตรที่กฏหมายบังคับในการอบรม
-
แบบแต่งตั้ง คปอ. (ใหม่)
-
โครงการโรงงานสีขาว
-
บทความกำลังใจน้อง จป
-
The Mind Map กฏหมาย จป
-
เอกสารที่ต้องส่งราชการ
-
จ่ายเงินค่าอุบัติเหตุในการทำงาน
-
แบบสปร.5
-
-
เพลงความปลอดภัย
-
คลิปไว้เสริมตอนอบรม
-
การสอนงาน
-
ตลกขำขัน คลายเคลีย
-
เรื่องอื่นที่น่าสนใจ
-
สาระน่ารู้ด้านสุขภาพ
-
วิธีสู่ความสำเร็จ
-
-
สมัครรับข่าวสาร
-
-
-
-
-
-
-
-
-
ทำอย่างไรให้องค์กรเลิกจ้างเราเป็นคนสุดท้าย?
โดย:
Noi2527
[IP: 61.91.85.xxx]
เมื่อ: 2015-06-04 09:16:41
ทำอย่างไรให้องค์กรเลิกจ้างเราเป็นคนสุดท้าย?
เมื่อองค์กรเจอวิกฤติอาจจะเป็นวิกฤติในการดำเนินธุรกิจขององค์กรเอง หรือวิกฤติทางเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อองค์กรเหมือนในปัจจุบันนี้ ทางเลือกสุดท้ายทางเลือกหนึ่งที่หลายองค์กรเลือกดำเนินการคือ ?การเลิกจ้าง? พนักงาน เพราะเป็นทางเลือกที่สามารถลดภาระค่าใช้จ่ายได้ทันที
ถ้ามองในมุมของคนทำงาน เมื่อพนักงานรู้ว่าสถานะขององค์กรย่ำแย่หรืออยู่ในวิกฤติพนักงานทุกคนก็คิดเสมอว่าวันหนึ่งคงจะต้องมีการเลิกจ้างพนักงาน ซึ่งการเลิกจ้างนี้เป็นสิ่งที่ไม่มีพนักงานคนใดปรารถนาให้เกิดขึ้นกับตัวเอง เพราะการเลิกจ้างเป็นหนทางของการว่างงาน การตกงาน การไม่มีงานทำ ไม่มีเงินใช้ ไม่มีความมั่นคงในชีวิต และสารพันปัญหาชีวิตก็จะติดตามมาหลังจากการถูกเลิกจ้าง ถึงแม้จะมีการเลิกจ้างเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คนทำงานทุกคนก็ภาวนาไม่ให้ตัวเองถูกเลิกจ้าง หรือถ้าต้องถูกเลิกจ้างก็ขอให้เป็นคนกลุ่มสุดท้ายขององค์กรก็แล้วกันอย่างน้อยก็จะช่วยต่อลมหายใจทางการเงินได้อีกระยะหนึ่ง
มนุษย์เงินเดือนคนใดไม่อยากประสบพบเจอกับการถูกเลิกจ้าง ขอให้ตอบคำถาม 3 คำถามดังต่อไปนี้
มีบุญเก่ามากเพียงพอหรือไม่?
คำว่า ?บุญเก่า? ในที่นี้หมายถึง ผลงานที่ผ่านมา เราคิดว่าตัวเราเองมีผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ให้กับคนในองค์กรบ้างหรือไม่ เมื่อไหร่ที่ผู้บริหารเห็นชื่อเห็นหน้าเรา เขายังนึกถึงผลงานชิ้นโบแดงของเราได้หรือไม่ ถ้าเจอเราทีไร ผู้บริหารมักจะชื่นชมกับผลงานในอดีตของเราอยู่ตลอดเวลา รับรองได้ว่าเรามีภูมิคุ้มกันมากพอที่จะไม่ถูกเลิกจ้าง หรือถูกเลิกจ้างก็คงจะไม่ใช่คนกลุ่มแรกแน่ๆ
ผลงานในอดีตเป็นสิ่งที่ติดตัวเฉพาะบุคคล ไม่สามารถโอนให้ใครได้ ใครมีบุญเก่าเยอะ พระ(ผู้บริหาร)คุ้มครองให้อยู่รอดปลอดภัยในช่วงวิกฤติแบบนี้ได้ ใครไม่มีบุญเก่าสะสมไว้ ในช่วงเวลานี้คงจะทำไม่ทันแล้ว เพราะองค์กรอยู่ในช่วงวิกฤติแล้ว เหมือนคนไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน พอเริ่มเจ็บป่วยคิดจะไปออกกำลังกายเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันก็คงไม่ทันแล้วเช่นกัน
จากคำถามนี้คงจะให้ข้อคิดกับคนทำงานได้เป็นอย่างดีว่า
?จงทำงานให้เต็มที่ เพื่อสร้างบุญบารมีไว้ปกป้องคุ้มภัยในยามวิกฤติ?
อย่าคิดแค่ทำงานไปวันๆประเภทหาเช้ากินค่ำ และคิดแค่ว่าวันนี้ทำงานหนักได้เงินเดือนเท่าเดิม แต่คงคิดว่าการทำงานหนักและมีผลงานจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองรอดพ้นจากการถูกเลิกจ้างในช่วงองค์กรเกิดวิกฤติ นอกจากนี้การทำงานหนักและมีผลงานจะช่วยให้เราก้าวหน้าเร็วกว่าคนอื่นเมื่อยามองค์กรเติบโต
งานที่เราทำสำคัญต่อการองค์กรมากหรือไม่?
ถ้าเรามีบุญเก่าน้อยเพราะไม่ได้สะสมไว้ หรือเราเพิ่งเข้ามาทำงานกับองค์กรนี้ เราก็ยังมีทางเลือกที่จะอยู่รอดในช่วงที่องค์กรเกิดวิกฤติคือ ต้องพิจารณาดูว่างานที่เราทำอยู่นั้นมีความสำคัญต่อองค์กรมาน้อยเพียงใด แน่นอนว่าเวลาองค์กรจะปลดคนหรือเลิกจ้าง นอกจากจะพิจารณาจากผลงานแล้ว ยังพิจารณาดูว่าตำแหน่งงานไหนที่สำคัญต่อองค์กรมากกกว่ากัน
การตอบคำถามข้อนี้ก็คงไม่แตกต่างอะไรไปจากคำถามในข้อแรก เพราะถ้าตำแหน่งงานที่เราทำอยู่ไม่ใช่ตำแหน่งที่สำคัญ เราก็คงไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้ในวันนี้ ในความเป็นจริงแล้ว ตำแหน่งงานที่เราทำอยู่ในปัจจุบันสำคัญมากหรือน้อยนั้น เกิดจากผลพวงของการศึกษาของเราว่าเราตั้งใจเรียนมากน้อยเพียงใด ถ้าเราเป็นคนเรียนเก่ง โอกาสที่เราจะได้ทำงานในตำแหน่งที่สำคัญๆก็มีมาก นอกจากนี้ก็เกิดจากประสบการณ์การทำงานในอดีตที่ส่งผลให้เราได้สมัครเข้ามาทำงานในตำแหน่งที่สำคัญหรือไม่เช่นกัน
สำหรับข้อคิดที่ได้จากการตอบคำถามนี้คือ
?ผลงานในอดีตกำหนดสถานะปัจจุบัน และผลงานปัจจุบันกำหนดสถานะในอนาคต?
ถ้าเราอยากจะได้ดิบได้ดีในปัจจุบัน เราต้องทำดีตั้งแต่ในอดีต และถ้าเราอยากได้ดีในอนาคตเราจะต้องทำดีตั้งแต่วันนี้
เรามีศักยภาพมากพอหรือไม่?
ถ้าบุญเก่าก็มีน้อย ตำแหน่งที่ทำอยู่ในปัจจุบันก็ไม่ได้สำคัญอะไรมากมาย เรายังพอมีโอกาสที่จะรอดพ้นจากวิกฤติการถูกเลิกจ้างได้อีกหนึ่งเรื่อง นั่นก็คือ ตัวเรามีศักยภาพมากพอที่จะเป็นความหวังในอนาคตขององค์กรหลังจากผ่านพ้นวิกฤติไปแล้วหรือไม่ คนบางคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ในตำแหน่งที่ไม่สำคัญมากนัก แต่เป็นคนที่มีศักยภาพ(ภาษาชาวบ้านเรียกว่ามีแวว) องค์กรก็ยังคงเก็บไว้ เพราะการเลิกจ้างคนที่มีศักยภาพเพียงหนึ่งคน อาจจะมีผลเสียมากกว่าการเลิกจ้างคนที่ไม่มีศักยภาพออกไปเป็นสิบเป็นร้อยคนก็ได้
ศักยภาพคือพลังที่อยู่ในตัวคนเราซึ่งเป็นผลพวงของการผสมผสานระหว่างความรู้ ทักษะประสบการณ์การทำงาน บุคลิกลักษณะ ความสามารถในการคิด และความมุ่งมั่น จนสามารถเปล่งรัศมีออกมาให้คนอื่นเห็นได้อย่างชัดเจน และคนอื่นรู้สึกมั่นใจว่าเรามีศักยภาพจริง ทั้งๆที่บางเรื่องเรายังไม่เคยทำ แต่สามารถดูได้จากรูปแบบและวิธีการคิดได้
ข้อคิดจากการตอบคำถามในข้อนี้คือ
?จุดเด่นสร้างความแตกต่าง ความแตกต่างสร้างทางเลือกและโอกาสในชีวิต?
ดังนั้น คนทำงานทุกคนควรจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาตัวเองให้แตกต่างจากคนอื่นอยู่เสมอ โดยเฉพาะการพัฒนาตัวเองให้เหนือกว่าและสูงกว่าสถานะที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เช่น ถ้าเราเป็นพนักงาน เราต้องคิดว่าคนที่เป็นหัวหน้าต้องรู้อะไรบ้าง ต้องคิดอะไรบ้าง ต้องทำอะไรบ้าง แล้วเราก็เริ่มฝึกคิดฝึกทำและเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ตั้งแต่เรายังเป็นพนักงาน ไม่ต้องรอเรียนรู้ตอนที่ได้เป็นหัวหน้าแล้ว
สรุป การเป็นมนุษย์เงินเดือนมืออาชีพนอกจากจะต้องทำงานให้คุ้มค่าตอบแทนที่องค์กรจ่ายให้เราแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องทำงานเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองไปพร้อมๆกันด้วย เวลาทำงานอย่าคิดถึงเงินที่ได้รับอยู่ในปัจจุบันว่าคุ้มค่าหรือไม่ เพราะคิดยังไงก็ไม่คุ้ม เนื่องจากผลตอบแทนที่เราได้รับอยู่ในปัจจุบันเป็นผลตอบแทนผลงานในอดีตไม่ใช่ผลงานในปัจจุบัน แต่ผลตอบแทนที่เราทำงานหนักในปัจจุบันจะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น การปรับค่าจ้างประจำปี การปรับค่าจ้างเมื่อได้เลื่อนตำแหน่ง การได้ค่าจ้างสูงขึ้นเมื่อเปลี่ยนงาน ดังนั้น เวลาทำงานหนักให้คิดว่าเราสะสมผลตอบแทนให้ตัวเอง ซึ่งเราจะได้รับในหลายรูปแบบ เช่น เงินเดือนที่สูงขึ้นในอนาคต ภูมิคุ้มกันเมื่อองค์กรเจอวิกฤติ และโอกาสที่จะก้าวหน้าในอาชีพเมื่อองค์กรเติบโต สุดท้ายนี้ ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับคนทำงานทุกคน จงคิดว่าเสมอว่าไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานการณ์ใด ชีวิตเราต้องอยู่รอดเสมอ และใครกำลังเจอปัญหาอุปสรรคในชีวิตอยู่ก็จงคิดว่าเรากำลังถูกทดสอบว่าชีวิตเราแข็งแกร่งมากน้อยเพียงใด และเมื่อเราผ่านวิกฤติในชีวิตนี้ไปได้ เราจะมีภูมิคุ้มกันมากกว่าคนอื่นๆนะ
ที่มา: ณรงค์วิทย์ แสนทอง (2011-03-24)
เมื่อองค์กรเจอวิกฤติอาจจะเป็นวิกฤติในการดำเนินธุรกิจขององค์กรเอง หรือวิกฤติทางเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อองค์กรเหมือนในปัจจุบันนี้ ทางเลือกสุดท้ายทางเลือกหนึ่งที่หลายองค์กรเลือกดำเนินการคือ ?การเลิกจ้าง? พนักงาน เพราะเป็นทางเลือกที่สามารถลดภาระค่าใช้จ่ายได้ทันที
ถ้ามองในมุมของคนทำงาน เมื่อพนักงานรู้ว่าสถานะขององค์กรย่ำแย่หรืออยู่ในวิกฤติพนักงานทุกคนก็คิดเสมอว่าวันหนึ่งคงจะต้องมีการเลิกจ้างพนักงาน ซึ่งการเลิกจ้างนี้เป็นสิ่งที่ไม่มีพนักงานคนใดปรารถนาให้เกิดขึ้นกับตัวเอง เพราะการเลิกจ้างเป็นหนทางของการว่างงาน การตกงาน การไม่มีงานทำ ไม่มีเงินใช้ ไม่มีความมั่นคงในชีวิต และสารพันปัญหาชีวิตก็จะติดตามมาหลังจากการถูกเลิกจ้าง ถึงแม้จะมีการเลิกจ้างเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คนทำงานทุกคนก็ภาวนาไม่ให้ตัวเองถูกเลิกจ้าง หรือถ้าต้องถูกเลิกจ้างก็ขอให้เป็นคนกลุ่มสุดท้ายขององค์กรก็แล้วกันอย่างน้อยก็จะช่วยต่อลมหายใจทางการเงินได้อีกระยะหนึ่ง
มนุษย์เงินเดือนคนใดไม่อยากประสบพบเจอกับการถูกเลิกจ้าง ขอให้ตอบคำถาม 3 คำถามดังต่อไปนี้
มีบุญเก่ามากเพียงพอหรือไม่?
คำว่า ?บุญเก่า? ในที่นี้หมายถึง ผลงานที่ผ่านมา เราคิดว่าตัวเราเองมีผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ให้กับคนในองค์กรบ้างหรือไม่ เมื่อไหร่ที่ผู้บริหารเห็นชื่อเห็นหน้าเรา เขายังนึกถึงผลงานชิ้นโบแดงของเราได้หรือไม่ ถ้าเจอเราทีไร ผู้บริหารมักจะชื่นชมกับผลงานในอดีตของเราอยู่ตลอดเวลา รับรองได้ว่าเรามีภูมิคุ้มกันมากพอที่จะไม่ถูกเลิกจ้าง หรือถูกเลิกจ้างก็คงจะไม่ใช่คนกลุ่มแรกแน่ๆ
ผลงานในอดีตเป็นสิ่งที่ติดตัวเฉพาะบุคคล ไม่สามารถโอนให้ใครได้ ใครมีบุญเก่าเยอะ พระ(ผู้บริหาร)คุ้มครองให้อยู่รอดปลอดภัยในช่วงวิกฤติแบบนี้ได้ ใครไม่มีบุญเก่าสะสมไว้ ในช่วงเวลานี้คงจะทำไม่ทันแล้ว เพราะองค์กรอยู่ในช่วงวิกฤติแล้ว เหมือนคนไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน พอเริ่มเจ็บป่วยคิดจะไปออกกำลังกายเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันก็คงไม่ทันแล้วเช่นกัน
จากคำถามนี้คงจะให้ข้อคิดกับคนทำงานได้เป็นอย่างดีว่า
?จงทำงานให้เต็มที่ เพื่อสร้างบุญบารมีไว้ปกป้องคุ้มภัยในยามวิกฤติ?
อย่าคิดแค่ทำงานไปวันๆประเภทหาเช้ากินค่ำ และคิดแค่ว่าวันนี้ทำงานหนักได้เงินเดือนเท่าเดิม แต่คงคิดว่าการทำงานหนักและมีผลงานจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองรอดพ้นจากการถูกเลิกจ้างในช่วงองค์กรเกิดวิกฤติ นอกจากนี้การทำงานหนักและมีผลงานจะช่วยให้เราก้าวหน้าเร็วกว่าคนอื่นเมื่อยามองค์กรเติบโต
งานที่เราทำสำคัญต่อการองค์กรมากหรือไม่?
ถ้าเรามีบุญเก่าน้อยเพราะไม่ได้สะสมไว้ หรือเราเพิ่งเข้ามาทำงานกับองค์กรนี้ เราก็ยังมีทางเลือกที่จะอยู่รอดในช่วงที่องค์กรเกิดวิกฤติคือ ต้องพิจารณาดูว่างานที่เราทำอยู่นั้นมีความสำคัญต่อองค์กรมาน้อยเพียงใด แน่นอนว่าเวลาองค์กรจะปลดคนหรือเลิกจ้าง นอกจากจะพิจารณาจากผลงานแล้ว ยังพิจารณาดูว่าตำแหน่งงานไหนที่สำคัญต่อองค์กรมากกกว่ากัน
การตอบคำถามข้อนี้ก็คงไม่แตกต่างอะไรไปจากคำถามในข้อแรก เพราะถ้าตำแหน่งงานที่เราทำอยู่ไม่ใช่ตำแหน่งที่สำคัญ เราก็คงไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้ในวันนี้ ในความเป็นจริงแล้ว ตำแหน่งงานที่เราทำอยู่ในปัจจุบันสำคัญมากหรือน้อยนั้น เกิดจากผลพวงของการศึกษาของเราว่าเราตั้งใจเรียนมากน้อยเพียงใด ถ้าเราเป็นคนเรียนเก่ง โอกาสที่เราจะได้ทำงานในตำแหน่งที่สำคัญๆก็มีมาก นอกจากนี้ก็เกิดจากประสบการณ์การทำงานในอดีตที่ส่งผลให้เราได้สมัครเข้ามาทำงานในตำแหน่งที่สำคัญหรือไม่เช่นกัน
สำหรับข้อคิดที่ได้จากการตอบคำถามนี้คือ
?ผลงานในอดีตกำหนดสถานะปัจจุบัน และผลงานปัจจุบันกำหนดสถานะในอนาคต?
ถ้าเราอยากจะได้ดิบได้ดีในปัจจุบัน เราต้องทำดีตั้งแต่ในอดีต และถ้าเราอยากได้ดีในอนาคตเราจะต้องทำดีตั้งแต่วันนี้
เรามีศักยภาพมากพอหรือไม่?
ถ้าบุญเก่าก็มีน้อย ตำแหน่งที่ทำอยู่ในปัจจุบันก็ไม่ได้สำคัญอะไรมากมาย เรายังพอมีโอกาสที่จะรอดพ้นจากวิกฤติการถูกเลิกจ้างได้อีกหนึ่งเรื่อง นั่นก็คือ ตัวเรามีศักยภาพมากพอที่จะเป็นความหวังในอนาคตขององค์กรหลังจากผ่านพ้นวิกฤติไปแล้วหรือไม่ คนบางคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ในตำแหน่งที่ไม่สำคัญมากนัก แต่เป็นคนที่มีศักยภาพ(ภาษาชาวบ้านเรียกว่ามีแวว) องค์กรก็ยังคงเก็บไว้ เพราะการเลิกจ้างคนที่มีศักยภาพเพียงหนึ่งคน อาจจะมีผลเสียมากกว่าการเลิกจ้างคนที่ไม่มีศักยภาพออกไปเป็นสิบเป็นร้อยคนก็ได้
ศักยภาพคือพลังที่อยู่ในตัวคนเราซึ่งเป็นผลพวงของการผสมผสานระหว่างความรู้ ทักษะประสบการณ์การทำงาน บุคลิกลักษณะ ความสามารถในการคิด และความมุ่งมั่น จนสามารถเปล่งรัศมีออกมาให้คนอื่นเห็นได้อย่างชัดเจน และคนอื่นรู้สึกมั่นใจว่าเรามีศักยภาพจริง ทั้งๆที่บางเรื่องเรายังไม่เคยทำ แต่สามารถดูได้จากรูปแบบและวิธีการคิดได้
ข้อคิดจากการตอบคำถามในข้อนี้คือ
?จุดเด่นสร้างความแตกต่าง ความแตกต่างสร้างทางเลือกและโอกาสในชีวิต?
ดังนั้น คนทำงานทุกคนควรจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาตัวเองให้แตกต่างจากคนอื่นอยู่เสมอ โดยเฉพาะการพัฒนาตัวเองให้เหนือกว่าและสูงกว่าสถานะที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เช่น ถ้าเราเป็นพนักงาน เราต้องคิดว่าคนที่เป็นหัวหน้าต้องรู้อะไรบ้าง ต้องคิดอะไรบ้าง ต้องทำอะไรบ้าง แล้วเราก็เริ่มฝึกคิดฝึกทำและเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ตั้งแต่เรายังเป็นพนักงาน ไม่ต้องรอเรียนรู้ตอนที่ได้เป็นหัวหน้าแล้ว
สรุป การเป็นมนุษย์เงินเดือนมืออาชีพนอกจากจะต้องทำงานให้คุ้มค่าตอบแทนที่องค์กรจ่ายให้เราแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องทำงานเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองไปพร้อมๆกันด้วย เวลาทำงานอย่าคิดถึงเงินที่ได้รับอยู่ในปัจจุบันว่าคุ้มค่าหรือไม่ เพราะคิดยังไงก็ไม่คุ้ม เนื่องจากผลตอบแทนที่เราได้รับอยู่ในปัจจุบันเป็นผลตอบแทนผลงานในอดีตไม่ใช่ผลงานในปัจจุบัน แต่ผลตอบแทนที่เราทำงานหนักในปัจจุบันจะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น การปรับค่าจ้างประจำปี การปรับค่าจ้างเมื่อได้เลื่อนตำแหน่ง การได้ค่าจ้างสูงขึ้นเมื่อเปลี่ยนงาน ดังนั้น เวลาทำงานหนักให้คิดว่าเราสะสมผลตอบแทนให้ตัวเอง ซึ่งเราจะได้รับในหลายรูปแบบ เช่น เงินเดือนที่สูงขึ้นในอนาคต ภูมิคุ้มกันเมื่อองค์กรเจอวิกฤติ และโอกาสที่จะก้าวหน้าในอาชีพเมื่อองค์กรเติบโต สุดท้ายนี้ ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับคนทำงานทุกคน จงคิดว่าเสมอว่าไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานการณ์ใด ชีวิตเราต้องอยู่รอดเสมอ และใครกำลังเจอปัญหาอุปสรรคในชีวิตอยู่ก็จงคิดว่าเรากำลังถูกทดสอบว่าชีวิตเราแข็งแกร่งมากน้อยเพียงใด และเมื่อเราผ่านวิกฤติในชีวิตนี้ไปได้ เราจะมีภูมิคุ้มกันมากกว่าคนอื่นๆนะ
ที่มา: ณรงค์วิทย์ แสนทอง (2011-03-24)
- ความคิดเห็น
- Facebook Comments