การติดตั้งรั้วป้องกันอันตรายจากเครื่องจักร

การติดตั้งรั้วป้องกันอันตรายจากเครื่องจักร
ต้องพิจารณาเรื่องใดบ้าง ???
ขออนุญาตเล่าสู่กันฟังนะครับ จากประสบการณ์เคยตรวจงานผู้รับเหมาที่ติดตั้งรั้วป้องกันอันตรายจากเครื่องจักร เพื่อให้มั่นใจว่ารั้วจะสามารถป้องกันการเข้าถึงส่วนที่เป็นอันตรายของเครื่องจักรได้มีประสิทธิภาพและเหมาะสม มีหลักเกณฑ์และแนวทางพิจารณาอะไรบ้าง ดังนี้ครับ
1. ระยะห่างเพื่อความปลอดภัย
• กำหนดระยะห่างระหว่างรั้วป้องกันและส่วนที่เคลื่อนไหวหรือเป็นอันตรายของเครื่องจักร โดยพิจารณาจากความสามารถของร่างกายผู้ใช้งานในการเข้าถึง เพื่อป้องกันการสัมผัสส่วนที่อาจก่อให้เกิดอันตราย
• ระยะห่างของรั้วป้องกันต้องพิจารณาจากส่วนต่างๆ ของร่างกายที่อาจเข้าถึงได้ เช่น มือ แขน ขา และศรีษะ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้งานจะไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่อันตรายได้
2. ระยะห่างขั้นต่ำที่แนะนำ
• ระยะห่างจากมือ: หากรั้วอยู่ในระดับที่ผู้ใช้งานอาจยื่นมือไปถึง ควรมีระยะห่างขั้นต่ำเพื่อให้มั่นใจว่ามือไม่สามารถเข้าถึงส่วนที่เป็นอันตราย
• ระยะห่างจากแขน: กรณีที่แขนสามารถยื่นผ่านรั้ว ควรเพิ่มระยะห่างให้เหมาะสมเพื่อป้องกันการเข้าถึงส่วนอันตราย
• ระยะห่างจากขาและเท้า: หากรั้วอยู่ในระดับต่ำ ให้พิจารณาระยะห่างเพื่อป้องกันการยื่นเท้าและขาเข้าไปในพื้นที่อันตราย
3. ความสูงของรั้วป้องกัน
• ระดับความสูงของรั้วขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่เกิดจากเครื่องจักรและระยะห่างระหว่างรั้วกับเครื่องจักร
• โดยทั่วไป รั้วควรมีความสูงไม่น้อยกว่า 1,400 มม. ขึ้นอยู่กับการประเมินความเสี่ยง เพื่อป้องกันการเข้าถึงด้วยมือ แขน หรืออวัยวะอื่นๆ ของผู้ใช้งาน
4. ประเภทของรั้วป้องกัน
• รั้วป้องกันแบบ Fixed Guards : เป็นรั้วป้องกันที่ติดตั้งถาวร ไม่สามารถถอดออกได้ง่าย และไม่ควรมีช่องว่างที่อาจทำให้ผู้ใช้งานยื่นมือเข้าไปในพื้นที่อันตรายได้
• รั้วป้องกันแบบ Adjustable Guards : เป็นรั้วป้องกันที่สามารถปรับตำแหน่งหรือขนาดได้ตามการใช้งาน โดยต้องมีระบบล็อกที่มั่นคงเพื่อป้องกันการถอดออกโดยไม่ได้ตั้งใจ
5. ช่องเปิดและการเข้าถึง
• ควรมีช่องเปิดหรือประตูเพื่อให้สามารถเข้าไปทำงานในพื้นที่ได้เฉพาะในกรณีที่จำเป็น เช่น การซ่อมบำรุงหรือตรวจสอบ แต่ต้องมีระบบล็อกที่ปลอดภัยเพื่อป้องกันการเปิดโดยไม่ได้รับอนุญาต
• หากต้องเปิดประตูเพื่อเข้าถึงควรเชื่อมต่อกับระบบควบคุมการทำงานของเครื่องจักรให้หยุดการทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อประตูหรือรั้วถูกเปิด
6. วัสดุที่ใช้ในการติดตั้งรั้วป้องกัน
• วัสดุควรมีความแข็งแรงและทนทาน สามารถทนต่อแรงกระแทกหรือความพยายามในการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต
• วัสดุต้องสามารถทนต่อการใช้งานในระยะยาวได้ โดยไม่เกิดการเสื่อมสภาพจากสภาพแวดล้อมหรือการใช้งานหนัก
7. การติดป้ายสัญลักษณ์และคำเตือน
• ต้องมีการติดตั้งป้ายเตือนที่ชัดเจน เช่น สัญลักษณ์ “ห้ามเข้า” หรือป้ายเตือนอันตราย เพื่อแจ้งเตือนผู้ใช้งานถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
• ป้ายควรติดตั้งในตำแหน่งที่มองเห็นได้ชัดเจนและใช้สัญลักษณ์ที่เป็นมาตรฐานเพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานเข้าใจได้ง่าย
แนวทางการติดตั้งรั้วป้องกันข้างต้น จะมุ่งเน้นการออกแบบระยะห่างและความสูงของรั้วเพื่อให้มีความปลอดภัยในการป้องกันการเข้าถึงของผู้ใช้งาน โดยคำนึงถึงความสามารถในการเข้าถึงตามขนาดของร่างกายมนุษย์ พร้อมทั้งระบุถึงวัสดุและการติดตั้งให้มีความแข็งแรงทนทาน ซึ่งจะช่วยให้การติดตั้งรั้วป้องกันเครื่องจักรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ
 
ขอบคุณข้อมูลดีดี จาก เพรสบู๊ก

Safety Summation

ข้อกำหนดการออกแบบและการติดตั้งรั้วป้องกันอันตรายจากเครื่องจักร สำหรับผู้ผลิตและผู้ติดตั้ง
การออกแบบและติดตั้งรั้วป้องกันอันตรายจากเครื่องจักรและอุปกรณ์ในโรงงานอุตสาหกรรม ควรพิจารณาให้ครอบคลุมถึงการออกแบบวัสดุที่ใช้ติดตั้งและการดูแลรักษาเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ปฏิบัติงานปลอดภัยจากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยมีข้อกำหนดและแนวทางสำคัญดังนี้
1. การออกแบบ
• ต้องได้รับการออกแบบเพื่อให้สามารถป้องกันการเข้าถึงส่วนที่เป็นอันตรายของเครื่องจักรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ต้องมีความแข็งแรงพอที่จะทนต่อแรงกระแทกได้และต้องใช้วัสดุที่มีคุณภาพ ทนทานต่อสภาพแวดล้อมการทำงาน
2. การติดตั้ง
• การติดตั้งต้องมั่นคงแข็งแรง ไม่สามารถเคลื่อนที่หรือถอดออกได้ง่าย เพื่อป้องกันการดัดแปลงหรือถอดออกโดยไม่ได้รับอนุญาต
• รั้วควรอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมและห่างจากเครื่องจักรในระยะที่ปลอดภัยเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการเข้าถึง
3. การระบุประเภทของรั้ว
• มีการระบุประเภทของรั้ว เช่น Fixed Guards) และ Adjustable Guards โดยกำหนดเงื่อนไขและวิธีการใช้งานในแต่ละประเภทเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของงานและความปลอดภัย
4. ความสะดวกในการบำรุงรักษา
• ออกแบบให้รั้วสามารถเข้าถึงได้ง่ายเมื่อมีการบำรุงรักษาหรือทำความสะอาด โดยไม่ต้องถอดรั้วทั้งหมด เพื่อลดความเสี่ยงที่เครื่องจักรจะถูกใช้งานโดยไม่มีการป้องกัน
• รั้วควรมีอายุการใช้งานยาวนานและสามารถทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว
5. การป้องกันอันตรายจากชิ้นส่วนที่ปล่อยพลังงาน
• ออกแบบเพื่อป้องกันไม่ให้ชิ้นส่วนหรือพลังงานที่เคลื่อนที่ออกจากเครื่องจักรสามารถทำอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงานได้
• อาจมีการเพิ่มวัสดุดูดซับพลังงานหรือแผงกันกระแทกในกรณีที่เครื่องจักรปล่อยชิ้นส่วนหรือเศษวัสดุออกมา
6. ระบบล็อกและกลไกการเปิด-ปิด
• หากรั้วมีประตูหรือช่องเปิด ควรติดตั้งระบบล็อกที่มั่นคงและมีมาตรการป้องกันการเปิดโดยไม่ได้รับอนุญาต เช่น ใช้ระบบล็อกที่ต้องใช้เครื่องมือเฉพาะในการเปิด
• ระบบล็อกควรเชื่อมต่อกับระบบควบคุมเครื่องจักรเพื่อหยุดการทำงานของเครื่องทันทีหากมีการเปิดรั้วโดยไม่ได้ตั้งใจ
7. การติดตั้งป้ายเตือนและสัญลักษณ์
• ต้องติดตั้งป้ายเตือนในตำแหน่งที่มองเห็นได้ชัดเจนเพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานตระหนักถึงอันตราย เช่น ป้ายเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงจากการเข้าใกล้เครื่องจักรขณะทำงาน
• ป้ายควรมีข้อความและสัญลักษณ์ที่เข้าใจง่าย ตามมาตรฐานสากล เช่น การใช้สีและสัญลักษณ์ที่เป็นที่ยอมรับทั่วไป
8. การทดสอบและการบำรุงรักษา
• ควรมีการตรวจสอบและบำรุงรักษารั้วป้องกันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตรวจเช็คความสมบูรณ์ของระบบป้องกันและตรวจหาการเสื่อมสภาพของวัสดุที่อาจเกิดขึ้นตามการใช้งาน
• ต้องมีบันทึกการตรวจสอบและบำรุงรักษาเป็นประจำ เพื่อเป็นหลักฐานในการรักษาความปลอดภัยให้เป็นไปตามข้อกำหนด
แนวทางดังกล่าวเป็นการจัดการความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน โดยครอบคลุมถึงการออกแบบ การติดตั้ง และการดูแลรักษารั้วเป็นไปอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุและอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการทำงานใกล้กับเครื่องจักร
=======================================
สนใจติดตั้งรั้วป้องกันอันตรายจากเครื่องจักรหรือรั้วนิรภัย
ติดต่อสอบถามขอคำปรึกษาได้ที่
บริษัท ไทยซัพพอร์ทเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
=======================================
อาจเป็นรูปภาพของ ข้อความ
 
Visitors: 595,760